orchid rhynchostylis gigantea var rubra ช้างแดง กล้วยไม้พันธุ์ไทยแท้

orchid rhynchostylis gigantea var rubra

orchid rhynchostylis gigantea var rubra จากการสำรวจพบว่ากล้วยไม้สกุลช้าง ที่มีอยู่ในโลก มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศในแถบอินโดจีน อินเดีย ศรีลังกา ภาคใต้ของหมู่เกาะในทะเลจีน และ หมู่เกาะอินเดียตะวันออก สำหรับในประเทศไทยพบว่ากล้วยไม้สกุลช้างมีกระจายพันธุ์อยู่ทุกภาคของประเทศ บางภาคอาจมีกล้วยไม้สกุลช้างชนิดหนึ่งแต่อาจไม่มีอีกชนิดหนึ่ง กล้วยไม้สกุลช้างที่พบตามธรรมชาติเพียง 4 ชนิด คือ ช้าง (Rhynchostylis gigantea) ไอยเรศ หรือ พวงมาลัย (Rhynchostylis retusa) เขาแกะ (Rhynchostylis coelestis) และ ช้างฟิลิปปินส์ (Rhynchostylis violacea) สำหรับ 3 ชนิดแรกมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย และ ประเทศใกล้เคียง ส่วนช้างฟิลิปปินส์มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์

ลักษณะโดยทั่วไป ของ orchid rhynchostylis gigantea var rubra

orchid rhynchostylis gigantea var rubra มีการเจริญเติบโตแบบ ฐานเดี่ยว มีลักษณะแตกต่างไปจากกล้วยไม้สกุลอื่น ๆ คือ มีลำต้นสั้น แข็งแรง ใบแข็ง หนาค่อนข้างยาว อวบน้ำ เรียงชิดกันอยู่บนลำต้น ใบเป็นร่อง หน้าตัดของใบรูปตัววี สันล่างของใบเห็นได้ชัด ใบอาจมีเส้นใบเป็นเส้นขนานสีจาง ๆ หลาย ๆ เส้นตามความยาวของใบ ปลายใบหยักมน หรือ เป็นฟันแหลมไม่เท่ากัน รากเป็นระบบรากอากาศ มีขนาดใหญ่ แขนงรากใหญ่ ปลายรากมีสีเขียวซึ่งสามารถปรุงอาหารด้วยวิธีสังเคราะห์ด้วยแสงได้ ช่อดอกอาจห้อยลงหรือตั้งขึ้น ความยาวของช่อดอกเกือบเท่าๆ กับความยาวของใบ ดอกมีเป็นจำนวนมากแน่นช่อดอก กลีบนอกและกลีบในของดอกแผ่ออก อาจมีจุดหรือไม่มีจุดสีม่วงหรือสีน้ำเงินก็ได้ ขนาดของกลีบนอกโตกว่ากลีบใน เส้าเกสรสั้น ปากไม่มีข้อพับ ปลายปากไม่หยัก หรือหยักเป็นลอนเล็กๆ 3ลอน ปลายปากชี้ตรงไปข้างหน้า ปากเชื่อมต่อกับฐานสั้น ๆ ของเส้าเกสร จึงดูเหมือนว่าไม่มีฐานของเส้าเกสร เดือยของดอกแบน ชี้ตรงไปข้างหลัง มีอับเรณู 2 ก้อน แยกออกจากกัน ออกดอกปีละครั้ง บางต้นอาจมีดอกครั้งละหลาย ๆ ช่อ

ลักษณะทางพฤษศษสตร์ orchid rhynchostylis gigantea var rubra

orchid rhynchostylis gigantea var rubra เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยชนิดเดียว กับ ช้างกระ แต่มีช่อดอกสีแดงเข้ม ลำต้นสูง 30 เซนติเมตร มีรากอากาศขนาดใหญ่ ใบเดี่ยวเรียงสลับซ้อนกัน รูปขอบขนานกว้าง 4 – 6 เซนติเมตร ยาว 30 – 40 เซนติเมตร มีช่อดอกออกทุกซอกก้านใบ ช่อดอกยาว 25 – 35 เซนติเมตร มีดอกย่อยจำนวนมาก มีกลีบดอก 6 กลีบ เมื่อบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 – 3 เซนติเมตร ผลเป็นฝัก มีเมล็ดขนาดเล็ก ออกดอกเป็นช่อดอกยาว 25 – 35 เซนติเมตร มีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกสีแดง มีกลีบดอก 6 กลีบ เมื่อบานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 – 3 เซนติเมตร ดอกช้างแดง จะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม ดอกทยอยบานทั้งช่อส่งกลิ่นหอมแรงตลอดทั้งวัน แต่ละต้นอาจจะแทงช่อดอกพร้อมกันหลายช่อ และ ดอกช้างแดงจะบานอยู่ได้นานหลายวัน

orchid rhynchostylis gigantea var rubra การเลี้ยงช้างแดงให้มีใบเขียวสวย อวบอิ่ม ให้ดอกสมบูรณ์

orchid rhynchostylis gigantea var rubra กล้วยไม้ช้างแดง ถือได้ว่าเป็นกล้วยไม้ที่นิยมปลูกกันมาก ในหมู่ของคนรักษ์กล้วยไม้ เนื่องจากความสวยงามของใบที่มีลักษณะค่อนข้างแข็ง ใบเรียวมน และ ดอกที่เป็นช่อสวยงาม ซึ่งกล้วยไม้ช้างแดง จะมีรากเป็นแบบรากอากาศ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปลูกมากมาย แต่ถ้าหากให้ปุ๋ย และ น้ำ ไม่สมบูรณ์จะทำให้เกิดอาการทิ้งใบได้ อาการนี้ควรระวังให้ดี เพราะถ้าทิ้งใบมาก ๆ ต้นกล้วยไม้จะดูไม่สวยงาม ดอกที่เคยออกมาหลาย ๆ ช่อก็จะไม่สมบูรณ์ การดูแลกล้วยไม้ช้างแดงก็รดน้ำ ให้ปุ๋ยตามปกติเหมือนที่ผู้ชื่นชอบปลูกกล้วยไม้หลาย ๆ ท่านทำกัน แต่ในช่วงเวลาค่ำจะเอานมโครสจืด 100 % ยี่ห้อใดก็ได้ 1 กล่อง นำมาเทใส่ที่โคนต้นกล้วยไม้ช้างแดง (เทเฉพาะที่โคนต้นเท่านั้น) สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ช่วงเช้าก็รดน้ำตามปกติ จะทำให้ใบของกล้วยไม้สีเขียวสวย อวบอิ่ม และ ใบมีลักษณะที่มันแวว ช่วยบำรุง และ เร่งการเจริญเติบโตของรากให้สมบูรณ์ เมื่อออกดอกก็จะได้ช่อดอกที่สวยงาม

orchid rhynchostylis gigantea var rubra กล้วยไม้ช้างแดง มีรากอากาศ ใบเป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนาน ดอกออกเป็นช่อทุกซอกก้านใบ ดอกดก กลีบหนาแข็ง ออกเป็นช่อแน่นสวย สีแดงบานเย็นเข้ม มีกลิ่นหอม ดอกทยอยบานทั้งช่อส่งกลิ่นหอมแรงตลอดทั้งวัน แต่ละต้นอาจจะแทงช่อดอกพร้อมกันหลายช่อ และ ดอกช้างแดงจะบานอยู่ได้นานหลายวัน เลี้ยงง่าย ชอบอากาศถ่ายเทสะดวก แสงร่มรำไร ชอบชื้นแต่ไม่แฉะ

Facebook
Twitter
LinkedIn