kluymai.com https://kluymai.com Just another WordPress site Sun, 25 Jun 2023 11:13:56 +0000 th hourly 1 https://kluymai.com/wp-content/uploads/2022/02/favicon-kluymai-32x32px.png kluymai.com https://kluymai.com 32 32 กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง หนึ่งในกล้วยไม้สุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมาก https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89-%e0%b9%81%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87/ https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89-%e0%b9%81%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87/#respond Fri, 21 Oct 2022 16:15:47 +0000 http://kluymai.com/?p=3602

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเภทของ กล้วยไม้สกุลแวนด้า สกุลสุดคลาสสิกที่มีดอกสวยงาม ๆ อีกสกุลหนึ่งเลยก็ว่าได้ แวนด้า เป็นกล้วยไม้ประเภทโมโนโพเดี้ยล ที่จะไม่แตกกอ แต่มีการเจริญเติบโตไปทางยอด มีรากเป็นรากอากาศ มี กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง ใบกลม หรือใบแบน ใบซ้อนสลับกัน ช่อดอกจะออกด้านข้างของลำต้น โดยสลับกับใบ ช่อดอกยาว และ แข็ง กลีบนอก กลีบในมีรูปร่างคล้ายกัน โคนกลีบจะแคบ รวมกันที่โคนเส้าเกสร กลีบดอกใน ด้านล่างด้านใต้ จะมีเดือยแหลมยื่นออกมา เป็นส่วนท้ายของปากกระเป๋า ปากกระเป๋าของแวนด้า เป็นแบบธรรมดาเป็นแผ่นหนาแข็ง พุ่งออกด้านหน้า จะรูปลักษณะคล้ายกับช้อน หูกระเป๋าทั้งสองข้าง จะแข็ง และ ตั้งขึ้น ส่วนสีของดอกนั้น จะมีมากมาย แตกต่างกันตามแต่ละชนิด โดย กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง มีรูปทรงของใบ และ ลำต้นคล้ายใบแบน มากกว่าใบกลม แวนด้าประเภทนี้ จะไม่พบในป่าธรรมชาติ การนำมาปลูกเลี้ยงในปัจจุบัน เป็นพันธุ์ลูกผสม โดยนำแวนด้าใบกลม มาผสมกับแวนด้าใบแบน

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง กล้วยไม้สกุลแวนด้ามีกี่ประเภท

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง จะมีกระจายพันธุ์อยู่ในทวีปเอเชีย ตั้งแต่ประเทศอินเดีย ประเทศศรีลังกา ประเทศพม่า ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย สกุลแวนด้า ได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์ขึ้น อีกหลากหลายในปัจจุบัน มีการจำแนกประเภทของแวนด้า โดยอาศัยรูปร่างลักษณะของใบ ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

  • กล้วยไม้แวนด้าใบกลม มีลักษณะของใบกลม ยาว เป็นทรงกระบอก ต้นสูง ข้อห่าง สังเกตได้ที่ใบติดอยู่ห่าง ๆ กัน มีดอกช่อละหลายดอก ดอกจะบานติดต้นประมาณ 2 – 3 ดอกเท่านั้น เมื่อดอกข้างบนบานเพิ่มขึ้น ดอกข้างล่างก็จะโรยไล่กัน การปลูกโดยใช้ดอก จึงนิยมปลิดดอกมากกว่า ตัดดอกทั้งช่อ
  • กล้วยไม้แวนด้าใบแบน มีลักษณะใบที่แผ่แบนออก ถ้าตัดหน้าตัด จะเป็นรูปตัววี มีข้อถี่ปล้องสั้น ใบซ้อนชิดกัน ปลายใบโค้งลง และ เป็นแฉก
  • กล้วยไม้แวนด้าก้างปลา มีรูปทรงของใบ และ ลำต้น กิ่งใบกลมกับใบแบน พบตามป่าธรรมชาติน้อยมาก เพราะกล้วยไม้พันธุ์นี้ เป็นหมันทั้งหมด
  • กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง มีรูปทรงของใบ และ ลำต้นคล้ายใบแบน มากกว่าใบกลม แวนด้าประเภทนี้ไม่พบในป่าธรรมชาติ การนำมาปลูกเลี้ยงในปัจจุบัน เป็นพันธุ์ลูกผสมทั้งหมด โดยนำแวนด้าใบกลม มาผสมกับแวนด้าใบแบนนั่นเอง

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง ลักษณะที่ดีของแวนด้าเป็นอย่างไร

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง โดยลักษณะที่ดี ของกล้วยไม้สกุลแวนด้านั้น มีดังต่อไปนี้

  • ดอกฟอร์มต้องกลม เหมือนกับฟ้ามุ่ย ต้องพัฒนาให้กลม แต่ในปัจจุบัน ฟอร์มแบบบิน ๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ถึงอย่างไรก็เป็น กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
  • จำนวนดอกในก้านช่อ 1 ก้าน ต้องมีจำนวนมาก ๆ จะดีกว่า อาิทเช่น สามปอยขุนตาน ควรจะมีราว ๆ 7 – 8 ดอก เป็นต้น
  • ก้านดอกสั้น ความหมายก็คือ เมื่อก้านดอกสั้น ดอกจะไปกระจุกติดกับก้านช่อ ทำให้ดูเป็นพุ่มดอกที่สวยงามนั่นเอง
  • กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง ลวดลายบนดอกชัดเจน อาทิเช่น ฟ้ามุ่ย ก็ต้องมีลายที่ชัดถึงจะสวยงามมากยิ่งขึ้น
  • ก้านช่อต้องแข็ง และ ยาว เพื่อที่จะรับน้ำหนักของจำนวนดอกได้มากนั่นเอง และ ถ้ายิ่งยาวมาก จำนวนดอกก็จะมากขึ้นตามไปด้วย จะยิ่งสวย

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง มีวิธีการปลูกอย่างไร

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง กล้วยไม้สกุลแวนด้า ในแต่ละชนิดนั้น จะชอบสภาวะอากาศแตกต่างกัน ถึงจะมีวิธีปลูกที่เหมือนกัน แต่หากสภาวะโรงเรือนไม่เหมาะสม ก็เฉาตายได้เหมือนกัน มาดูวิธีปลูกกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้

  • ส่วนใหญ่แล้ว กล้วยไม้แวนด้า เป็นกล้วยไม้รากอากาศ สามารถปลูกแบบใส่กระเช้าได้ โดยไม่ต้องใส่เครื่องปลูกก็ได้
  • การปลูก กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง อาจจะใช้ฟิวมัด รากกับกระเช้า เพื่อไม่ให้ขยับ
  • หลังจากนั้น ก็นำมาอนุบาลไว้ในร่มรำไร หรือใต้แสลน ไม่ให้ถูกแสงมาก จนกว่ารากจะเดินได้ดี
  • แวนด้าที่ออกขวด อาจจะต้องผึ่งในตะกร้าไว้สักระยะ ให้รากใหม่เดินแล้วค่อยหนีบนิ้ว
  • ส่วนการหนีบนิ้วนั้น อาจจะใช้สเฟกนั่มมอส หรือกาบมะพร้าวหนีบก็ได้
  • ไม้ใหม่นั้น รากจะยังไม่แข็ง อาจจะให้แต่น้ำ หรือผสม บี1 เพื่อใช้รด กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง 
  • พอแข็งแรงได้ดีแล้ว ก็ปรับเป็นให้ปุ๋ยสัปดาห์ละครั้ง เช่น 21 – 21 – 21 เป็นต้น

กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง เป็นกล้วยไม้ที่จะไม่พบในป่าธรรมชาติ ที่พบเห็นได้ในปัจจุบันนี้คือลูกผสมทั้งนั้น แต่ถึงอย่างไรก็เป็นกล้วยไม้ที่สวยงาม แต่ทั้งนี้กล้วยไม้จะสวยหรือไม่สวยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความขยันในการดูแล หากขยัน กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง ที่เราเลี้ยงก็จะให้ดอกสวยงาม แต่ถ้าไม่ขยันรับรองได้เลยว่ากล้วยไม้สกุลแวนด้า ก็จะเฉาตายได้ ดังนั้นหากจะนำ กล้วยไม้ แวนด้าใบร่อง หรือแวนด้าประเภทอื่น ๆ มาเพาะเลี้ยงนั้น ก่อนที่จะเลี้ยง ควรจะศึกษาให้ดีก่อน เพราะบางชนิดเลี้ยงยากในพื้นราบ อีกทั้งยังต้องมีเวลาในการดูแล ให้ปุ๋ย หรือเฝ้าระวังในเรื่องของโรคระบาด เพื่อให้กล้วยไม้ของเรานั้นอยู่ยืนยาว เป็นไม้ประดับที่สวยงาม มองเห็นแล้วเจริญหูเจริญตา ไปได้อีกนานนั่นเอง

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89-%e0%b9%81%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87/feed/ 0
กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา เท่าไหร่ มีข้อมูลพฤกษศาสตร์อย่างไร https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%8b%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1-%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b2/ https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%8b%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1-%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b2/#respond Thu, 20 Oct 2022 12:10:35 +0000 http://kluymai.com/?p=3595

กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา ถ้าใครที่หลงใหล หรือมีความชื่นชอบในกล้วยไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอกับสายพันธุ์ที่เรียกได้ว่า มีสีสวยงามสะดุดตาเป็นอย่างมาก ดอกทนทาน สดชื่นตลอดเวลา คงจะเพิ่มความน่าหลงใหลอยู่ไม่น้อย ยิ่งถ้ามีโอกาสได้เห็น กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา ที่อยู่บนถนนราชพฤกษ์ ในจังหวัดเชียงใหม่นั้น เมืองของดอกไม้ และ กล้วยไม้ที่ได้รับการขนานนาม ว่าเป็นป่าในจินตนาการ โดยเฉพาะช่วงอากาศหนาว ๆ ดอกไม้หลากสีสันนั้น ได้ถูกแต่งเติมเข้ามาเต็มพื้นที่ และ ซิมบิเดียม ที่มีสีสันสวยสะดุดตา มีดอกค่อนข้างใหญ่ สีสด และ หลายสีอีกด้วย จึงถือได้ว่าเป็นกล้วยไม้สายพันธุ์หนึ่งที่หลายคนให้ความชื่นชอบ สำหรับข้อมูลทางพฤกษศาสตร์นั้น เป็นกล้วยไม้ดิน ซิมบิเดียม เป็นลูกผสมทนร้อน เลี้ยงดูง่าย แตกกอได้ไว ชอบเครื่องปลูกแบบระบายน้ำดี ไม่แฉะ นิยมใช้มะพร้าวสับใหญ่รองก้นกระถาง เพื่อช่วยในการระบายน้ำ กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา มีราคาตามตลาดปัจจุบันอยู่ที่ต้นละ 450 บาท และ ที่เห็นทั่วไปตามตลาดนั้น เป็นซิมบิเดียมลูกผสม ที่ทนร้อน และ เป็นกล้วยไม้ดินอีกด้วย

กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา มีลักษณะการเจริญเติบโตอย่างไร

ออกไปตามชนิด บางชนิดมีลำต้นอ้วนขนาด เท่ากำปั้น บางชนิดมีรูปร่างผอม ซิมบีเดียมจะไม่มีการทิ้งใบ ใบติดอยู่กับต้น และ มีสีเขียวตลอดทั้งปี กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา จะมีใบที่เรียวยาว เนื้อใบคล้ายกับหนัง มีขนาดตั้งแต่ 30 ซม. ไปจนถึง 90 – 100 ซม. ในหนึ่งลำต้นจะมีใบ 9 – 15 ใบ เมื่อลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ก็จะมีการสร้างลำต้นใหม่ขึ้นมาจากฐานเดิม และ จากลักษณะการเจริญเติบโตนั้น สามารถแบ่ง กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา ได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

  • ช่อดอกมีการพัฒนาในขณะที่ลำต้นยังพัฒนาไม่เต็มที่นั้น การเจริญเติบโต จะเริ่มในช่วง กุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม ส่วนช่วงการพัฒนาช่อดอกในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงกันยายน และ ดอกจะบานในฤดูหนาวเท่านั้น
  • ส่วนช่อดอกมีการพัฒนาต่อเมื่อลำต้นมีการพัฒนาไปเต็มที่แล้ว ช่อดอกจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูร้อน แล้วดอกจะบาน ในช่วงฤดูหนาวเช่นเดียวกัน

กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา มีกี่สายพันธุ์ในปัจจุบัน และ มีการผสมอย่างไร

กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา กล้วยไม้สกุลซิมบิเดียมนั้น ในแต่ละสายพันธุ์ ต้องการสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไป บางสายพันธุ์ชอบอากาศร้อน แต่บางสายพันธุ์ชอบอากาศเย็น ส่วนซิมบิเดียมที่พบในประเทศไทยนั้น จะมีประมาณ 18 สายพันธุ์ อาทิเช่น กะเรกะร่อน ซึ่งเจริญเติบโตอยู่บนต้นไม้สูง ส่วน กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา ส่วนใหญ่นั้น จะเกิดจากการผสมระหว่างกล้วยไม้สายพันธุ์แท้ ในป่าเทือกเขาหิมาลัย เป็นกล้วยไม้ที่เติบโตได้ดี ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น ในธรรมชาติกล้วยไม้สกุลซิมบิเดียม จะมักเติบโตในซอกต้นไม้ ที่มีมอส และ เฟิร์นอีกด้วย กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา จะดูดซับความชื้น เพื่อมาหล่อเลี้ยงชีวิต และ ปกป้องตัวเองจากความหนาวเย็นอีกด้วย ซึ่งคุณสมบัตินี้ จะช่วยให้ดอกกล้วยไม้มีลักษณะที่แตกต่าง ไปจากกล้วยไม้ชนิดอื่น ๆ นั่นเอง

กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา ซิมบิเดียม เหมาะแก่สภาพอากาศแบบไหน

กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา เป็นสกุลกล้วยไม้ ที่ว่ากันว่ามีมากกว่า 40 ชนิด มีทั้งประเภทรากอากาศ  ประเภทที่ยึดเกาะ และ ประเภทที่อาศัยหากินบนต้นไม้ อาทิเช่น กะเรกะร่อน หรือ Cymbidium finlaysonianum เป็นกล้วยไม้ดิน ที่อาศัยขึ้นอยู่ตามพื้นดิน ที่นิยมนำมาขยายพันธุ์ เพื่อผลิตลูกผสม ตัดดอกขาย จากที่เมื่อก่อน กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา เป็นพืชเมืองหนาว ต้องมีอากาศหนาวเย็นตลอด ถึงจะออกดอก เพราะมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบหิมาลัย ยูนนาน แต่ปัจจุบัน มีการปรับปรุงพันธุ์ไปเยอะมาก จนกระทั่งมีซิมบิเดียมที่ปลูก และ ออกดอกในสภาพอากาศร้อน อย่างเช่น กรุงเทพในบ้านเราได้ ไม่ใช่เพียงแค่มีดอกที่สวย แต่ใบก็งามอีกด้วย  กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา มีรุ่นยอดนิยมในช่วงแรก ๆ และ ปลูกกันมากในภาคเหนือ เรียกกันว่า สำเภางาม เพราะที่มีกลีบดอกสีขาว ไปจนถึงขาวอมชมพู จนเริ่มมีสีสันมากยิ่งขึ้น จากสีชมพูอ่อนก็กลายเป็นชมพูเข้ม ไปจนถึงสีเหลือง แต่บางรุ่นก็มีการปรับปรุงสายพันธุ์ จากกะเรกะร่อน ที่กลีบดอกจะเรียวยาวกว่า อาจจะให้รูปทรงที่แปลกตาออกไปนั่นเอง ด้วยดอกที่มีขนาดใหญ่ สวยทน สวยนาน จึงไม่มีใครไม่หลงใหล

กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา กล้วยไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย มีความหลากหลายทางธรรมชาติ กล้วยไม้พันธุ์นี้ จึงมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป จะพบได้ทั้งสายพันธุ์ ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ และ เจริญเติบโตอยู่บนดิน กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา มีทั้งระบบรากอากาศ และ รากดิน เป็นกล้วยไม้แตกกอ ลำลูกกล้วยอาจสั้น หรือยาวขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ กล้วยไม้ซิมบิเดียม ราคา อยู่ปัจจุบันที่ 450 บาทโดยประมาณ ในประเทศไทยนั้นมีอยู่ประมาณ 18 สายพันธุ์ จะออกดี และ สวยงามโดยเฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีชื่อเรียกว่า สำเภางาม เป็นดอกไม้ที่มีสีสันสวยสะดุดตา อีกสายพันธุ์หนึ่ง เป็นดอกที่สวยทนทานมาก

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%8b%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1-%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b2/feed/ 0
กล้วยไม้กําเตย ขายส่ง https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%81%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a2-%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%87/ https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%81%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a2-%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%87/#respond Wed, 19 Oct 2022 11:39:33 +0000 http://kluymai.com/?p=3582

กล้วยไม้กําเตย ขายส่ง เช็กราคาล่าสุดได้ง่าย ๆ บนตลาดออนไลน์

สถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก จากตลาดนัด ตลาดสดเดิม ๆ ก็กลับกลายมาเป็นตลาดออนไลน์ มีการซื้อขายบนโลกออนไลน์กันหมด ไม่เว้นแม้แต่ดอกไม้ ต้นไม้ ที่อาจจะคิดว่า จะขนส่งกันยังไง จะลำบากไหม จะคุ้มหรือเปล่า ใครที่เกิดคำถามก็คงจะนั่งเฝ้าร้านกันอย่างเหงาหงอย ส่วนใครที่ลงมือทำ โพสต์ขายบนแอปพลิเคชั่น ในการขายบนโลกออนไลน์ ก็ขายดีเป็นกอบเป็นกำ ยกตัวอย่างเช่น กล้วยไม้กําเตย ที่เป็นเพียงแค่กล้วยไม้เอื้องธรรมดา ๆ สุดคลาสสิก กับใบกำเตย หรือใบเตยหอมที่ใช้ไหว้พระนั้น ในปัจจุบันสามารถซื้อขายได้ง่าย ๆ บนช่องทางออนไลน์ โดยที่ไม่ต้องขับรถให้เสียเวลา ไปที่ตลาดอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งยังมีวิธีการส่งง่าย ๆ และ ที่สำคัญก็คือสามารถเช็กราคา กล้วยไม้กําเตย ขายส่ง ได้แล้วบนโลกออนไลน์ ส่วนราคาขายส่งนั้นก็คือ อยู่ที่กำละ 7 – 10 บาทเท่านั้น อ้างอิงมาจากสวน นรัชยา ในกรุงเทพมหานคร ที่จำหน่ายสดใหม่ทุกวัน อีกทั้งยังเป็นดอกใหญ่ ๆ ที่สวยงาม อีกด้วย

ดอกไม้กํา ถวายพระ

มาทำความรู้จักเตยหอมกันก่อน

เมื่อพูดถึงใบเตย หรือเตยหอม ที่ใครหลาย ๆ คนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีนั้น เป็นไม้ที่มีลักษณะทรงพุ่มเล็ก ที่ขึ้นเป็นกอ ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ในส่วนของใบ มีลักษณะเป็นทางยาวสีอ่อน ขอบใบเรียบ ซึ่งใบจะมีความพิเศษคือมีกลิ่นหอม จึงนำมาขายเป็น กล้วยไม้กําเตย ที่ใช้ประโยชน์ได้มากมาย อีกทั้งสีเขียวของใบเตย หรือเตยหอมนั้น ยังเป็นสีที่ได้จากคลอโรฟิลล์ จึงนิยมนำไปเป็นส่วนประกอบของขนม และ อาหารต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ และ ได้กลิ่นหอมมาก ๆ ที่ช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย นอกจากจะมีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว จึงนิยมนำเตยหอมมามัดเป็นกำกับดอกไม้ หรือกล้วยไม้ เพื่อใช้ในการบูชาพระ บางคนก็นำไปใส่ไว้ในรถเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เมื่อได้สัมผัสกลิ่นของมันอีกด้วย

กล้วยไม้กําเตย ขายส่ง ทำความรู้จักกับเอื้องสีม่วงสุดคลาสสิก

ส่วนดอกไม้ หรือ กล้วยไม้ที่นิยมนำมามัดรวมกับเตยหอมนั้น ส่วนใหญ่จะเป็น เอื้อง , เอื้องคำ หรือ Dendrobium chrysotoxum นั่นเอง โดยลักษณะทั่วไป คือ เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย ส่วนใหญ่พบบนคาคบไม้ ลำต้นจะเป็นโคนเล็ก ลำลูกกล้วยป่องตรงกลาง เป็นรูปกระสวย สูงประมาณ 15 – 30 เซนติเมตร พื้นผิวลำลูกกล้วยจะเป็นร่อง หรือมีหลายร่อง มีสีขาว หรือบางครั้ง สีเหลืองเข้ม สีม่วงเจือสีแดง จึงเหมาะที่จะมาทำเป็น ดอกกล้วยไม้กำ ขายส่ง นั่นเอง โดยใบเกิดที่ปลายรูปไข่ จะมีประมาณ 2 – 5 ใบ และ มีความยาวของใบ ประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร ส่วนดอกนั้น จะออกเป็นช่อ จากตาดอกบริเวณส่วนปลายลำลูกกล้วย ก้านดอกแข็ง มักห้อยโค้ง ลง หรือชี้ไปทางด้านข้างอย่างสวยงาม ช่อดอกยาวประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร

ความเชื่อ หรือ ความเกี่ยวข้อง กับการนำมาไหว้พระ

การเลือกดอกไม้เพื่อไหว้พระในแต่ละครั้งนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วนั้น ทุกคนค่อนข้างที่จะพิถีพิถันในเลือกดอกไม้ ที่มีความสด ความสวยงาม เพราะมีความเชื่อที่ว่า ดอกไม้สวย ๆ นั้น จะช่วยทำให้ชีวิตเราสวยงามตามไปด้วย กล้วยไม้กําเตย เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่นำมาไหว้พระ หรือทำบุญตักบาตรมาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะ ดอกกล้วยไม้นั้น ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้สีม่วง หรือสีขาว ที่ถูกมัดมาพร้อมกับใบเตยหอม ๆ ให้เราได้นำไปถวายพระกัน เพราะดอกกล้วยไม้นั้น เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงมิตรภาพที่ดี ความงดงาม และ ความบริสุทธิ์อีกด้วยดอกกล้วยไม้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้สีม่วง หรือสีขาว ที่ถูกมัดมาพร้อมกับใบเตยหอม ๆ ให้เราได้นำไปถวายพระกัน ดอกกล้วยไม้ เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงมิตรภาพที่ดี ความงดงาม และ ความบริสุทธิ์อีกด้วย ดังนั้นการเลือกดอกไม้ไหว้พระนั้น จึงจะต้องเลือกดอกไม้ที่มีความดี เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง เพื่อที่จะนำความโชคดีต่าง ๆ มาแก่ชีวิต จึงถือได้ว่าเป็นดอกที่มีความหมายดี สุดคลาสสิก และ มีกลิ่นหอมจากกำเตยอีกด้วย

ดอกไม้กํา ราคา ปัจจุบันอยู่ที่ กำละ 7 – 10 บาท อ้างอิงจาก สวนนรัชยา ในกรุงเทพมหานคร โดยใบเตย หรือกำเตย ที่มีการปลูกกันเป็นจำนวนมาก จากทางเขตจังหวัดปทุมธานี ที่นำมาขายต่อ เพื่อมัดเป็นกำร่วมกับดอกไม้ หรือกล้วยไม้ ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับกำเตยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีขายส่งกันอย่างกว้างขวาง บนตลาดออนไลน์ ที่มีการขาย กล้วยไม้กําเตย ขายส่ง ผ่านรถที่มีการควบคุมอุณหภูมิ รักษาความสด ความสวยของดอกไม้ได้เป็นอย่างดี เพื่อส่งต่อมาให้ทุกท่านได้นำไปกราบไหว้ บูชาให้ทุก ๆ วัน แต่อย่างไรก็ตาม การที่เราจะสำเร็จผลในด้านต่าง ๆ ได้นั้น ไม่ใช่แค่การไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือการทำบุญเพียงอย่างเดียว เราต้องใช้ความพยายาม และ ลงมือทำสิ่งนั้นให้เต็มที่ด้วย

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%81%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a2-%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%87/feed/ 0 40 บาทก็ซื้อได้!!กล้วยไม้สวยๆราคาถูก พร้อมเคล็ดลับการดูแลกล้วยไม้ง่ายๆด้วยตัวเอง สาคู channel nonadult
เอื้องสาย (Dendrobium spp) เลี้ยงง่าย ตายยาก ออกดอกสวย https://kluymai.com/%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a2/ https://kluymai.com/%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a2/#respond Tue, 18 Oct 2022 15:34:23 +0000 http://kluymai.com/?p=3575

เอื้องสาย มีหลายสิบชนิด อยู่ในสกุลหวาย (Dendrobium spp) เป็นกล้วยไม้ที่เลี้ยงง่าย ตายยาก ออกดอกสวย ทนร้อน และ ขยายพันธุ์ได้ดี เลี้ยงเกาะกับต้นไม้ที่เปลือกขรุขระ เช่น ต้นมะขาม ต้นกาสะลอง ต้นจามจุรี มันจะชอบมากเป็นพิเศษ กว่าเลี้ยงด้วยเครื่องปลูกอื่น ๆ แต่เพื่อความสะดวกเราชาวกล้วยไม้ มักจะเอาเอื้องสายมาเกาะกับไม้เนื้อแข็ง ก็จะพอจะทดแทนกันได้ ที่นิยมกันมาก เอื้องสายหลวง เอื้องสายนกกระจิบ เอื้องครั่งสั้น เอื้องสายม่วง หรือ เอื้องอินทกริต วันนี้เราจะมาแนะนำ เอื้องสายหลวง และ เอื้องสายม่วง เอื้องยอดนิยมทั้ง 2 ชนิด มาให้ทุกท่านได้รู้จักกัน จะมีลักษณะอย่างไรกันบ้างนั้น ติดตามกันได้เลย

เอื้องสายหลวง (Dendrobium anosmum)

เอื้องสายหลวง Den. anosmum เป็นกล้วยไม้สกุลหวายอีก ชนิดหนึ่งที่มีความสวยงามโดดเด่นไปจากสกุลหวายชนิดอื่น ๆ เนื่องจาก สายหลวง เป็นหวายที่มีลำต้นเมื่อโตเต็มที่แล้วจะมี ขนาดใหญ่โต ความยาวของลำลูกกล้วยสามารถยาวได้มากกว่า 2 เมตร เมื่อถึงฤดูกาลให้ดอก สายหลวง จะให้ดอกพลั่งพลูตลอด ลำเป็นที่ตรึงตาตรึงใจของนักเลี้ยงหลาย ๆ คน และ ด้วยรูปร่างที่ ใหญ่มหึมาของกล้วยไม้สกุลหวายชนิดนี้นี่เอง มันจึงได้รับชื่อสม ยานามว่า สายหลวง นั่นเอง ในบรรดาเอื้องสาย สายหลวง นับเป็นเอื้องสายที่มีลักษณะของดอก หลากหลายที่อาจจะแตกต่างกันมากกว่า 10 รูปแบบ ในภาคเหนือเราอาจจะพบกับ สายหลวง ที่มีดอกกลมโต สีชมพูหวานสวยมีตากลมใหญ่เต็มปาก หรือ อาจจะพบกับ สายหลวง ที่มีปากบานใหญ่ กลีบดอกเล็กในแถบเขาขุนตาน ละที่ดูเหมือนจะแปลกที่สุด คงจะเป็น สายหลวง ของภาคใต้บ้านเรา มันมีลักษณะดอกที่พิลึกกึกกือ เมื่อสังเกตที่ ผิวปากของเจ้า สายหลวง ชนิดนี้ เราจะพบว่ามันมีขนหยุบหยับเต็มไปหมด เมื่อเทียบกับ สายหลวง ปกติ ลำของมันเล็ก เรียว ไม่ต่างอะไรไปจากเอื้องสายอื่น ๆ รูปร่างของลำต้นเล็กเพรียว ให้ดอกเพียงกระจุ๋มกระจิ๋มเพียงเล็กน้อยพอหอมปาก หอมคอตรงบริเวณปลายลำเท่านั้น ขนาดของดอกนั้นเล็กกว่า สายหลวง ภาคเหนือ แต่ลักษณะสีสัน ยังคงชมพูหวาน คงเอกลักษณ์ของ เอื้อง สายหลวง อยู่นั่นเอง

เอื้องสายม่วง หรือ เอื้องสายครั่งยาว

เอื้องสายม่วง บางท่านเรียกกันว่า สายครั่งยาว มีแหล่งกระจายพันธุ์ใน ไทย พม่า ลาว และ อินเดีย ขึ้นอยู่บนความสูงที่ระดับ 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป ในประเทศไทยมีบันทึกไว้ว่าพบ สายม่วง ในภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบริเวณป่าดิบ และ ป่าสนเขา สำหรับสีสันของ สายม่วง นั้น มีทั้งสีม่วงเข้มไปจนถึงม่วงอ่อน ๆ บางครั้งเรามักพบ สายม่วง ที่มีปากเป็นสีเหลือง หรือ ดำ แทนที่จะเป็นสีม่วงเข้มแทน เช่นเดียวกับเอื้องสายชนิดอื่น ๆ สายม่วง จะผลัดใบทิ้งเมื่อเริ่มเข้าฤดูหนาว และ พักตัวอยู่อย่างนั้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงฤดูร้อน ราว ๆ ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน ถึงจะมีดอกให้ชม นับว่าใช้เวลาพักตัวอยู่นานถึง 2 – 4 เดือนเลยทีเดียว ปัจจัยการทิ้งใบของ สายม่วง นั้น ยังพบด้วยว่าความชื้น และ การให้น้ำมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับสายอื่น ๆ หากเราให้น้ำมาก อัตราการทิ้งใบจะช้ากว่ากำหนด และ หากไม่ให้ หรือ ปล่อยแห้งเพียงวันถึงสองวัน ไม้สายจะทิ้งใบลงอย่างรวดเร็ว จนน่าตกใจ แต่นั่นก็เป็นข้อดี คือ เราก็จะได้เห็นดอกเร็วขึ้น นั่นเอง

การปลูกเลี้ยง เอื้องสาย

การปลูกเลี้ยง เอื้องสาย ก็เหมือนกับการปลูกเลี้ยง และ ดูแลกล้วยไม้สกุลหวายทั่วไป เนื่องจาก เอื้องสายนั้น เป็นกล้วยไม้ที่ชอบร้อน เลี้ยงง่ายมาก ๆ ที่สำคัญคือ ทนทาน ตายยากมาก เมื่อได้รับ เอื้องสายไม่ว่าชนิดใด เข้ามาเลี้ยงดูแล้ว ก่อนอื่นให้ตัดรากแห้ง และ ลำแห้งทิ้งออกเสียให้หมดก่อนเป็นอันดับแรก แล้วทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

– นำ เอื้องสาย มามัดติดกับขอนไม้ที่เหมาะสม โดยจัดลำให้ห้อยตัวลง หลีกเลี่ยงการมัดติดโดยให้หัวดิ่งลงพื้นตรง ๆ เพราะการจับหัวดิ่งลงเลย กล้วยไม้ทรงจะไม่สวยแล้วยังทำให้โตช้า หากเปรียบเป็นเข็มนาฬิกา แนะนำให้ติดตรง 9 นาฬิกา หรือ 3 นาฬิกา ของขอนไม้ ไม่แนะนำ 6 นาฬิกาครับ เพราะ 6 นาฬิกาจะเป็นการทรมานกล้วยไม้เกินไป อารมณ์เหมือนเราถูกจับห้อยหัวโดยมัดเท้าไว้

– หาเป็นกระเช้าสี่เหลี่ยม ให้นำวัสดุปลูกเช่น กาบมะพร้าว มารองระหว่าง เอื้องสาย กับกระเช้าก่อน เพื่อให้ได้รับความชื้นที่พอเพียง เสร็จแล้วมัดให้แน่น แล้วแขวนกระเช้าโดยใช้ลวดเพียงสองขาก็เพียงพอ เพื่อให้ลำของ เอื้องสาย ได้ดิ่งตัวลงมานั่นเอง

– รดน้ำวันละ 1 ครั้ง เช้า หรือ เย็น ระยะแรกให้แขวน เอื้องสายไว้ในร่มรำไร พ้นแสงแดดจัด เมื่อกล้วยไม้รากเดินดีแล้วจึงค่อย ๆ ขยับเข้าหาแสงแดดที่มากขึ้นเพื่อให้กล้วยไม้ได้ปรุงอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อใช้ ในการผลิดอกในครั้งต่อ ๆ ไปนั่นเอง

เอื้องสาย กล้วยไม้สกุลหวาย ที่พูดได้เต็มปาก เต็มคำเลยว่า เป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายที่สุดก็ว่าได้ ทนแดด ตายยาก ออกดอกสวย ขยายพันธุ์ได้ดี เพราะ เอื้องสายเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มกล้วยไม้ สกุลหวาย (Dendrobuim) เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยที่พบเห็นได้ทุกภาคของเมืองไทย โดยเฉพาะภาคเหนือนั่นเอง ด้วยลักษณะนิสัยที่แตกกอง่าย และ ทำให้ลำลูกกล้วยที่เรียวยาว เป็นแนวดิ่งลงสู่พื้นดินนั้น เมื่อถึงเวลาให้ดอก เอื้องสายเหล่านี้ มักจะออกดอกพรั่งพรูตั้งแต่โคน ไปจนถึงปลายสุด ทำให้เอื้องสาย ยามให้ดอกนั้นสวยงามเป็นอย่างมาก มองดูราวผืนผ้าม่านขนาดใหญ่ปกคลุมบนยอดไม้สูง สง่า งดงาม อย่างที่หาที่เปรียบไม่ได้นั่นเอง

]]>
https://kluymai.com/%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a2/feed/ 0
กล้วยไม้ หวาย (Dendrobium) สวยงาม ปลูกง่าย ราคาไม่แพง https://kluymai.com/%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a2/ https://kluymai.com/%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a2/#respond Mon, 17 Oct 2022 13:38:22 +0000 http://kluymai.com/?p=3565

กล้วยไม้ สกุลหวาย แน่นอนว่าสำหรับคนที่ชื่นชอบกล้วยไม้ กล้วยไม้หวาย ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกแรก ๆ สำหรับการเลือกสายพันธุ์ของกล้วยไม้ เข้ามาประดับตกแต่งภายในบ้าน หรือ พื้นที่ต่าง ๆ ในสวน เพราะนอกจากจะจะเป็นไม้ดอกที่มีสีสันสวยงามเป็นอย่างมากแล้ว ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของกล้วยไม้ชนิดนี้นั่นก็คือการช่วยดูดคาร์บอนไดออกไซด์ และ คายออกซิเจนซึ่งทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ต้นกล้วยไม้นั้นสดชื่น และ น่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกปลูกไว้ภายในบ้าน หรือ ระเบียงคอนโดก็ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้จักกับกล้วยไม้ชนิดนี้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักต้นนี้กัน ว่านอกจากความสวยงามแล้ว กล้วยไม้ชนิดนี้มีวิธีดูแลอย่างไรบ้าง เผื่อใครที่เริ่มจะรู้สึกอยากปลูกกล้วยไม้สีสันสวยงามต้นนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว

กล้วยไม้ หวาย มีลักษณะเป็นอย่างไร ?

จะว่าไปกล้วยไม้ หวาย นั้น ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของกล้วยไม้ที่พบได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการค้นพบกล้วยไม้ชนิดนี้มากกว่า 1,000 สายพันธุ์ ทั้งในทั้งในทวีปเอเชีย และ หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้นก็จะมีลักษณะของดอกที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นสี รูปร่าง หรือ ขนาดความเล็กใหญ่ของดอก ในส่วนของลักษณะการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ชนิดนี้นั้น สามารถเติบโตได้ดีทั้งในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น หรือ หนาวเย็น ดังนั้นจึงเหมาะอย่างมากสำหรับการปลูกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีดอกออกในทุก ๆ ฤดูกาล จึงเหมาะทั้งสำหรับปลูกเพื่อขายดอก เพื่อใช้สำหรับจัดแจกัน หรือ ใช้ในการบูชาพระก็สามารถทำได้ และ ยังเหมาะสำหรับการปลูกไว้ภายในพื้นที่บ้าน หรือ คอนโดเพื่อใช้ประดับตกแต่งที่พักผ่อนให้สวยงาม และ สดชื่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ลักษณะของต้น กล้วยไม้ หวาย มีลักษณะสำคัญอะไรบ้าง ?

หลังจากที่ได้รู้ลักษณะของ กล้วยไม้ หวาย ว่าเป็นอย่างไรไปอย่างคร่าว ๆ แล้ว คราวนี้ลองมารู้จักกับลักษณะของต้นกล้วยไม้ชนิดนี้กันบ้าง ว่ามีลักษณะที่สำคัญอย่างไรบ้าง ต้นกล้วยไม้หวายนั้น มีระบบรากแบบกึ่งอากาศ ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนจากลักษณะของรากที่จะโผล่พ้นกระถางออกมานั่นเอง ซึ่งหลาย ๆ คนอาจมองว่าลักษณะของรากที่โผล่พ้นกระถางออกมาเช่นนี้ ทำให้สายพันธุ์ของต้นกล้วยไม้มีเสน่ห์ และ ความสวยงามเพิ่มมากขึ้นไปอีก ในส่วนของลำต้นนั้นจะมีลักษณะเป็นลำต้นที่มีความอวบน้ำ และ มีการเจริญเติบโตในลักษณะของการแตกกอ ซึ่งการแตกหน่อนั้นจะเกิดหนึ่งหน่อต่อหนึ่งลำ แต่หากต้นกล้วยไม้ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี และ มีความสมบูรณ์มาก ก็อาจมีการแตกหน่อถึงสองหน่อต่อหนึ่งลำได้เช่นกัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ลำต้นหนึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือนลำต้นก็จะเจริญเติบโตจนสุด และ เมื่อกล้วยไม้มีการเจริญเติบโตอย่างสุดลำแล้วก็จะให้ดอกไม้ 1 – 5 ช่อที่ปลายลำ โดยแต่ลำจะสามารถให้ช่อได้ประมาณ 5 – 15 ช่อนั่นเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นลักษณะของเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่งของดอกกล้วยไม้ ที่จะให้ดอกเป็นช่อสวยงามสมบูรณ์ ต่างจากดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่ดอกจะงอกออกมาในลักษณะแยกกันเดี่ยว ๆ ไม่ออกมาเป็นช่อ ดังนั้นหากต้องการเลือกกล้วยไม้หวายลักษณะดีก็จะต้องเลือกที่ลำต้นมีความอิ่มน้ำ ไม่แห้งเหี่ยว หรือ หากเลือกตอนที่กำลังออกดอกก็ต้องเลือกต้นที่มีดอกออกเป็นช่อสมบูรณ์นั่นเอง

หลายข้อดีของการปลูกกล้วยไม้ หวาย

แน่นอนว่าเมื่อได้รู้จักกับลักษณะต่าง ๆ ของกล้วยไม้ หวาย กันไปแล้ว คราวนี้เราขอสรุปลักษณะออกมาเป็นข้อดีทั้งหมด 8 ข้อ เผื่อใครที่อยากจะใช้เอาไว้ในการประกอบการตัดสินใจ กำลังชั่งใจว่าจะซื้อกล้วยไม้ดี หรือ ไม่ หรืออยากจะเอาไปนำเสนอสมาชิกภายในครอบครัว ว่ากล้วยไม้หวายมีข้อดีอย่างไร ทำไมต้องเลือกซื้อมาไว้ในบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม ก็สามารถหยิบยกข้อดีทั้ง 8 ข้อนี้ไปใช้กันได้เลย

  1. ปลูกง่าย สำหรับใครหลาย ๆ คนที่ไม่ค่อยมีเวลา
  2. ช่วยดูดซับสารพิษในอากาศ
  3. เจริญเติบโตเร็ว และ ออกดอกตลอดทั้งปี
  4. ลำต้นแข็งแรง และ มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป
  5. ดอกสวยงาม ทนทาน ไม่ร่วงง่าย
  6. เหมาะทั้งปลูกเพื่อความสวยงาม และ ปลูกขาย
  7. ลำต้นใช้เป็นยาสมุนไพรได้
  8. กล้วยไม้หวายราคาไม่แพง

กล้วยไม้สกุล หวาย (Dendrobium) เป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่ที่สุด มีการแพร่กระจายพันธุ์ออกไปในบริเวณกว้างทั้งในทวีปเอเชีย และ หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก นักพฤกษศาสตร์ได้จำแนกออกเป็นหมู่ประมาณ 20 หมู่ และ รวบรวมกล้วยไม้ชนิดนี้ที่ค้นพบแล้วได้ประมาณ 1,000 ชนิดพันธุ์ กล้วยไม้สกุลหวาย มีลักษณะการเจริญเติบโตแบบซิมโพเดียล คือ มีลำลูกกล้วย เมื่อลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะแตกหน่อเป็นลำต้นใหม่ และ เป็นกอ ใบแข็งหนาสีเขียว ดอกมีลักษณะทั่วไปของกลีบชั้นนอกคู่บน และ คู่ล่างขนาดยาวพอ ๆ กันโดยกลีบชั้นนอกบนจะอยู่อย่างอิสระเดี่ยว ๆ ส่วนกลีบชั้นนอกคู่ล่างจะมีส่วนโคน ซึ่งมีลักษณะยื่นออกไปทางด้านหลังของส่วนล่างของดอกประสานเชื่อมติดกับฐาน หรือ สันหลังของเส้าเกสร และ ส่วนโคนของกลีบชั้นนอกคู่ล่าง และ ส่วนฐานของเส้าเกสรซึ่งประกอบกันจะปูดออกมา มีลักษณะคล้ายเดือยที่เรียกว่า “เดือยดอก” สำหรับกลีบชั้นในทั้งสองกลีบมีลักษณะต่าง ๆ กันแล้วแต่ชนิดพันธุ์ของกล้วยไม้นั้น ๆ

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a2/feed/ 0
สามปอย https://kluymai.com/%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%9b%e0%b8%ad%e0%b8%a2/ https://kluymai.com/%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%9b%e0%b8%ad%e0%b8%a2/#respond Sun, 16 Oct 2022 12:00:51 +0000 http://kluymai.com/?p=3556

สามปอย เอื้องเมืองเหนือที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของกลิ่นหอมเย้ายวน

คำว่า ปอย เป็นคำพื้นเมืองของชาวเหนือ ซึ่งใช้เรียกงานประเพณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานบุญ ในฤดูของงานปอยนั้นมักจะ จัดขึ้นในช่วงต้นของฤดูร้อน และ ในบางครั้งอาจ ยาวติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่กล้วยไม้ชนิดหนึ่งให้ ดอกผลิบานส่งกลิ่นหอมอบอวลอยู่พอดี หญิงสาวชาวเหนือจึงเด็ดดอกของกล้วยไม้ที่หอมรัญจวนนี้ นำมาเหน็บ ประดับติดไว้กับมวยผมของตน กล้วยไม้ชนิดนี้จึงถูกขนานนามโดยชาวเหนือว่า ดอกเอื้องสามปอย ความหมาย คือ เอื้องอันงดงามที่เบ่งบานได้ยาวนานตลอดยามงานปอยทั้งสามฤดูของพวกเขานั่นเอง เป็นเอื้องเมืองเหนือที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของกลิ่นหอมเย้ายวน มันจึงเป็นกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมอย่าง แพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในต่างประเทศ และ ลูกผสมเป็นกล้วยไม้สีเหลืองยอดฮิต ติดตลาดรองจากฟ้ามุ่ย และ ลูกผสมของฟ้ามุ่ย และ สายพันธุ์แท้นี้ก็ยังมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง มันเป็นที่จับตา มองของเหล่านักเลี้ยงกล้วยไม้ต่างชาติหลายคน เหล่าผู้คนแดนตะวันตกจึงต่างพากันอิจฉาเมืองร้อนอย่างไทยเรา ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ไว้ครอบครอง

ดอกเอื้องเมืองเหนือ

ปอยนก หรือ สามปอยหางปลา

ปอยนก หรือ ถูกเรียกในนาม ปอยหางปลา เป็นปอยที่มีขนาดเล็กที่สุด

กลีบดอกทั้งห้ากลีบเล็กเรียว และ ส่วนกลีบดอกที่ดูคล้ายปีกนั้นบิดลู่ ราวกับนกที่กำลังโผบิน พื้นดอกนั้นหากเพ่งดูดี ๆ แล้วบางต้นจะพบลายตารางที่เรียกว่าลายสมุกอยู่ ปอยชนิดนี้มีกลิ่นหอมเบา ๆ เท่านั้น เมื่อลองมองมาที่ปากของดอกชนิดนี้จะพบว่าที่ปลายสุดของปากจะมีลักษณะ คล้ายกับหางปลา  และ เมื่อลองไล่ย้อนไปตรงโคนของปากจะพบสีชมพูเรื่อ ๆ อยู่ ดอกของพวกมัน มีทั้งสีน้ำตาลแดง สีแดงสด และ สีเขียวหรือเหลือง ซึ่งในศัพท์นักเลี้ยงกล้วยไม้เรียกชนิดที่มีสีเขียวนี้ว่า “เผือก”

ก้านช่อนั้นยาว แต่ดอกที่อยู่บนก้านช่อนี้จะห่างจากกันค่อนข้างมาก ในก้านช่อจะประกอบไปด้วยดอกเล็ก ๆ ราว ๆ 10 – 20 ดอก “ลักษณะที่ดีจะต้องมีดอกที่ถี่ช่อแน่น ก้านดอกสั้นกว่าปรกติ หากเป็นไปได้มีขนาด ดอกที่ใหญ่ด้วยจะยิ่งดีเลิศ” คุณชิเนนทรกล่าว

เนื่องจากปอยชนิดนี้นั้นมีขนาดเล็ก จึงไม่ค่อยได้รับการพัฒนาสายพันธุ์เท่าที่ควร ทำให้ไม่มีลูกผสมเกิดขึ้น

เอื้องปอยดง

ลักษณะ และ สี

เอื้องสามปอยดง เป็นปอยที่มีขนาดกลาง ปอยชนิดนี้หาได้ยากขึ้นในปัจจุบัน มีพื้นสี ของดอกหลากหลายเช่นเดียวกับปอยนก คือสีแดงเลือดหมู สีน้ำตาลอมแดง สีน้ำตาลขุ่น สีพื้นเหลืองเขียวมี ลายสมุกเส้นสีน้ำตาลตลอดทั้งดอก และ สีเขียว หรือ เผือก โดยทั่วไปที่พื้นดอกมีลายสมุกชัดกว่าปอยนก กลีบดอกมีทั้งลักษณะที่คล้ายกับปอยนก ปอยดงที่มีลักษณะฟอร์มกลม นั้นจะหาได้ยากกว่า บริเวณของปากดอกจะมีสีน้ำตาลอมเหลือง บางต้นมีปากเป็นสีเขียว และ ลึกเข้าไปบนบริเวณ ของแผ่นสันด้านข้างของกลีบปาก หรือ ที่เรียกกันว่า side lobe จะมีลักษณะเป็นสีขาวสะอาด แต่บางต้นก็พบว่ามี ลักษณะสีน้ำตาล หรือ มีแต้มสีน้ำตาลประเป็นจุดถี่ ๆ อยู่

ความเป็นมา

เมื่อครั้งอดีตกาล ปอยดงถูกจำแนกให้อยู่ในชื่อวิทยาศาสตร์เดียวกับปอยขุนตาน นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า ในครั้งที่ปอยดงยังไม่ถูกแยกให้ออกจากปอยขุนตาน ยังถูกเรียก อีกชื่อหนึ่งว่า ปอยขุนยวม เนื่องจากเมื่อในอดีต ชาวบ้านขุนยวมได้นำปอยดงจากป่า มาจำหน่ายในท้อง ตลาดอำเภอขุนยวมที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งในขณะที่ไม่มีดอก ปอยขุนตาน และ ปอยดง จะมีลักษณะต้น และ ใบที่คล้ายคลึงกันมาก เมื่อมีนักเลี้ยงกล้วยไม้ได้มาพบเห็นเข้า และ นำไปเลี้ยงเมื่อออกดอก จึงเข้าใจว่าเป็น ปอยขุนตานอีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะดอกใหญ่ พื้นดอกสีน้ำตาลเข้ม มีลายสมุกสีม่วงแดง จึงต่างพากันเรียก ปอยดงที่เข้าใจว่าเป็นปอยขุนตานนี้ว่า 3 ปอยขุนยวม

ปอยชมพู

  • การกระจายพันธุ์

    สามปอยชมพู ถือได้ว่าเป็นปอยที่มีความสวยงามมากชนิดหนึ่ง เป็นปอยที่มีสีหวานได้ลงตัว ในอดีต ปอยชมพูพบได้ทั่วไปในภาค เหนือของไทย กระจายพันธุ์ไปทั่วแทบทุกพื้นที่
  • ลักษณะทั่วไป

    ลักษณะโดยทั่วไป นั้นมีสีของพื้นดอกเหลืองเจือเขียวมีแต้มสี น้ำตาลอมแดง หรือ มีลายสมุกเป็นตารางกระจายชัดเจนทั่วทั้งดอก บางครั้งเม็ดสีที่กระจายบนพื้นดอกก็ น้อยเป็นเพียงลายกระจุดไข่ปลาเพียงประปราย บนพื้นดอก บริเวณกลีบปากของดอกจะเป็นสีชมพูหวานไปจนถึงบริเวณโคนของแผ่นกลีบด้าน ข้างกลีบปาก (side lobe) ก้านดอกนั้นยาวราว 1 ฟุตได้ บนก้านดอกประกอบไปด้วยจำนวนดอกเรียงรายราว ๆ 10 -15 ดอก
  • ฟอร์มของปอยชมพู

    ฟอร์มของปอยชมพูนั้นมีทั้งลักษณะกลม และ ลักษณะฟอร์มกลีบ ในกรณีของฟอร์มดอกที่สวยๆนั้น คุณชิเนนทรได้ระบุว่า เป็นสิ่งที่หาพบได้ยาก มีจำนวนน้อยที่จะพบฟอร์มกลมก้าน ดอกสั้น ช่อแน่น สีเข้ม และ มีดอกขนาดใหญ่

กล้วยไม้ 3 ปอย เป็นกล้วยไม้สกุลแวนด้า ที่มีความสวยงาม และ เมื่อนำมาผสมพันธุ์ก็จะได้ลูกผสมที่สวยงาม โดยมีกล้วยไม้ในกลุ่มนี้ที่เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ที่พิสูจน์แล้ว เช่น แวนด้า ฟ้ามุ่ย แวนด้าแซนเดอเรียน่า และ ปอยต่าง ๆ ก็มีความสวยงามมีลักษณะดอกน่าสนใจ เล่นรูปทรงของดอก สีสัน และ กลิ่นหอม ซึ่งเมื่อนำไปผสมพันธุ์แล้วก็จะถ่ายทอดลักษณะที่ดี น่าสนใจให้แก่ลูกผสม และ หนึ่งในกลุ่มแวนด้า ซึ่งเป็นไม้ในภาคเหนือ และ ภาคอื่น ๆ ของประเทศไทยที่มีทั้งกลิ่น สี และ ความหนาของกลีบดอกที่หนาเป็นพิเศษจนอุปมาว่าเมื่อดอกกล้วยไม้ชนิดนี้บานแล้วอายุการบานของดอกจะยาวนานถึง 3 ช่วงงานปอย ซึ่งงานปอยคือ งานเฉลิมฉลองของชุมชนสังคมชาวบ้านในถาคเหนือ

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%9b%e0%b8%ad%e0%b8%a2/feed/ 0 เอื้องสามปอยหางปลา หรือเอื้องสามปอยนก เลี้ยงง่าย ทนทาน ให้ดอกบานทุกปี Vanda liouvillei Finet nonadult
แคทลียาลูกผสม เลี้ยงง่าย ทนร้อน ดอกใหญ่ สีสวย https://kluymai.com/%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%9c%e0%b8%aa%e0%b8%a1/ https://kluymai.com/%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%9c%e0%b8%aa%e0%b8%a1/#respond Sat, 15 Oct 2022 16:05:20 +0000 http://kluymai.com/?p=3548

วันนี้เราจะมาแนะนำ กล้วยไม้ลูกผสม ของสกุลแคทลียา กล้วยไม้แคทลียาเป็นกล้วยไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนแถบอเมริกากลาง และ อเมริกาใต้ตอนเหนือ เป็นกล้วยไม้ที่เจริญเติบโต และ มีรูปทรงแบบซิมโพเดี้ยล คือมีเหง้าแนบไปตามเครื่องปลูก เหง้าอาจจะมีทั้งยาว และ สั้น มีรากงอกเจริญจากเหง้า ไม่มีรากแขนง เป็นระบบรากกึ่งอากาศดูดอาหารจากอากาศ และ เครื่องปลูก แคทลียาเป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วย มีหลายลักษณะ บางชนิดลำลูกกล้วยเป็นข้อปล้อง รูปทรงของลำป่องตรงกลาง หรือ ค่อนไปข้างบนของลำเล็กน้อย มีหน้าที่เก็บสะสมอาหาร เหนือข้อที่โคนลำจะมีตา 2 ตา คือตาซ้าย และ ตาขวา เป็นตาแตกลำใหม่ง่ายที่สุด บางชนิดที่ลำลูกกล้วยอ้วนป้อม บางชนิดเป็นรูปทรงกระบอก หรือ บิดเป็นเกลียวเล็กน้อย ผิวพื้นของลำอาจเกลี้ยง หรือ เป็นร่องตามความยาวของลำ เมื่อกล้วยไม้เจริญเติบโต ลำที่ 1 หรือ เรียกว่าลำหลัง จะแตกตาออกแล้วเจริญเป็นลำที่ 2 หรือ เรียกว่าลำหน้า เมื่อลำที่ 2 เจริญดีแล้วก็จะแตกตาออกเป็นลำที่ 3 และ ที่ 4 ออกไปเรื่อยๆ บางครั้งตาแตกออกเป็น 2 ทางเรียกว่า ไม้ 2 หน้า จึงทำให้ดูเป็นกอใหญ่ โดยมีเหง้าเป็นส่วนที่เชื่อมโยงของลำลูกกล้วยลำต่อลำ และ เป็นส่วนของลำที่เจริญออกจากลำเดิม แคทลียามีใบเกิดที่ส่วนปลายลำลูกกล้วยเท่านั้น ในลำใหม่ที่กำลังเจริญใบส่วนมากแบน แต่บางชนิดใบกลมรูปทรงกระบอก ใบอาจมี หรือ ไม่มีกาบ รูปลักษณะค่อนข้างหนาแข็งแต่ไม่เปราะ ลำลูกกล้วยลำหนึ่งอาจจะมีใบเพียงใบเดียว หรือ สองใบก็ได้ ลักษณะของใบใช้ในการแบ่งประเภทของกล้วยไม้สกุลแคทลียา โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  • ประเภทใบเดี่ยว เป็นแคทลียาประเภทที่ปลายลำลูกกล้วยมีใบเพียงใบเดียวเท่านั้น แคทลียาประเภทนี้มักออกดอกน้อย ช่อหนึ่งอาจมีเพียง 1 หรือ 2 ดอกเท่านั้น ลักษณะดอกใหญ่ ช่อดอกสั้น
  • ประเภทใบคู่ เป็นแคทลียาประเภทที่ลำลูกกล้วยมี 2 ใบ อาจจะมีใบถึง 3 ใบก็ได้ แคทลียาประเภทนี้จะออกดอกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีหลายดอก ดอกเล็กช่อยาว

แคทลียาออกดอกที่ปลายลำลูกกล้วย เมื่อออกดอกจะออกลำหน้าซึ่งเมื่อมีลำหน้าหลายลำเวลาออกดอกจะออกดอกทีละมาก ๆ บางครั้งอาจมีถึง 10 ช่อ การออกดอกในแต่ละช่อ ช่อดอกหนึ่ง ๆ อาจมีดอกเพียง 1 ดอก , 2 ดอก , 3 ดอก หรือ บางชนิดอาจมีถึง 10 ดอกก็ได้ ลักษณะของกลีบดอกมีกลีบนอก 3 กลีบ อยู่ข้างบน 1 กลีบ ข้างล่าง 2 กลีบ ขนาดเท่า ๆ กัน กลีบในมี 3 กลีบ กลีบใน 2 กลีบบนมีรูปร่างเหมือนกัน โดยปกติมีขนาดใหญ่กว่ากลีบนอก กลีบในที่ 3 อยู่ที่ตอนล่างมีรูปร่างไม่เหมือนกับกลีบในบน กลีบจะม้วนทั้ง 2 ข้างเรียกว่า ปาก หรือ กระเป๋า ปากมีหูกว้าง ริมปากหยักเป็นคลื่น และ มีสีเข้มกว่าส่วนอื่น ๆ ภายในปากมีเส้นเกสรค่อนข้างยาว และ โค้งเล็กน้อยยื่นออกมา แคทลียามีเกสรตัวผู้อยู่ตอนปลายเส้าเกสรเป็นคู่มี 2 คู่ เกสรตัวเมียอยู่ตอนล่าง เส้าเกสรนี้เป็นที่รวมของอวัยวะตัวเมียซึ่งมีรังไข่อยู่ติดกับเส้าเกสรด้านล่างเห็นเป็นลักษณะคอดเล็กยาวชัดเจนเมื่อติดฝัก ซึ่งฝักนี้จะมีเมล็ดเป็นผงเล็กมากอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก เมื่อแก่จัดฝักก็จะแตก และ เมล็ดจะแพร่กระจายปลิวไปตกยังที่ต่าง ๆ เมื่อมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะงอกเจริญเป็นต้นใหม่ และ ขยายพันธุ์ต่อไปตามวงจรชีวิตธรรมชาติ

แคทลียา ลูกผสม สกุลใกล้เคียง และ แคทลียาลูกผสม 2 สกุล

ลูกผสม เป็นกล้วยไม้ที่เกิดจากการผสมข้ามสกุลระหว่างกล้วยไม้สกุลแคทลียากับกล้วยไม้สกุลใกล้เคียงอื่น ๆ เช่น

  • กล้วยไม้สกุลลีเลีย (Laelia)
  • กล้วยไม้สกุลบรัสซาโวลา (Brassavola)
  • กล้วยไม้สกุลโซโฟไนตีส (Sophronitis)
  • กล้วยไม้สกุลเอพิเดนดรัม (Epidendrum)
  • กล้วยไม้สกุลชอมบูเกีย (Schomburgkia)

ลูกผสม 2 สกุล เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้สกุลแคทลียาแท้ผสมกับกล้วยไม้สกุลต่าง ๆ เกิดเป็นแคทลียาลูกผสม 2 สกุล เช่น

  • ลีลิโอแคทลียา (Laeliocattleya) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากสกุลแคทลียาผสมข้ามสกุลกับลีเลีย
  • บรัสโซแคทลียา (Brassocattleya) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากสกุลแคทลียาผสมข้ามสกุลกับบรัสซาโวลา
  • โซโฟรแคทลียา (Sophrocattleya) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากสกุลแคทลียาผสมข้ามสกุลกับโซโฟรไนตีส
  • เอพิแคทลียา (Epicattleya) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากสกุลแคทลียาผสมข้ามสกุลกับเอพิเดนดรัม
  • ชอมบูแคทลียา (Schombocattleya) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากสกุลแคทลียาผสมข้ามสกุลกับชอมบูเกีย

แคทลียาลูกผสม 3 สกุล

ลูกผสม เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้แคทลียาลูกผสมที่ผสมแล้ว 2 สกุลผสมข้ามกับอีกสกุลหนึ่ง เกิดเป็นแคทลียาลูกผสม 3 สกุล เช่น

  • บรัสโซลีลิโอแคทลียา (Brassolaeliocattleya) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้บรัสโซแคทลียาผสมกับกล้วยไม้สกุลลีเลีย (สกุลแคทลียาผสมกับสกุลบรัสซาโวลาผสมกับสกุลลีเลีย)
  • เอพิลีลิโอแคทลียา (Epilaeliocattleya) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้ลีลิโอแคทลียาผสมกับกล้วยไม้สกุลเอพิเดนดรัม (สกุลแคทลียาผสมกับสกุลลีเลียผสมกับสกุลเอพิเดนดรัม)
  • เอพิคาโทเนีย (Epicatonia) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้เอพิแคทลียาผสมกับกล้วยไม้สกุลสกุลบรัสซาโวลา (สกุลแคทลียาผสมกับสกุลเอพิเดนดรัมผสมกับสกุลบรัสซาโวลา)
  • เอพิคาโทเนีย (Epicatonia) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้เอพิแคทลียาผสมกับกล้วยไม้สกุลสกุลบรัสซาโวลา (สกุลแคทลียาผสมกับสกุลเอพิเดนดรัมผสมกับสกุลบรัสซาโวลา)
  • ดีเคนสารา (Dekensara) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้บรัสโซแคทลียาผสมกับกล้วยไม้สกุลชอมบูเกีย (สกุลแคทลียาผสมกับสกุลบรัสซาโวลาผสมกับสกุลชอมบูเกีย)

​แคทลียา ลูกผสม 4 สกุล

ลูกผสม เป็นกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้แคทลียาลูกผสมที่ผสมแล้ว 3 สกุลกับอีกสกุลหนึ่ง เกิดเป็นแคทลียาลูกผสม 4 สกุล เช่น

  • ยามาดารา (Yamadara) เป็นลูกผสมกล้วยไม้ที่เกิดจากกล้วยไม้บรัสโซเลลิโอแคทลียาผสมข้ามกับสกุลเอพิเดนดรัม
  • โพตินารา (Potinara) เป็นลูกผสมกล้วยไม้ที่เกิดจากกล้วยไม้บรัสโซเลลิโอแคทลียาผสมข้ามกับสกุลโซโฟรไนตีส

ลูกผสม สกุลแคทลียา เป็นกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมปลูกเลี้ยงอย่างกว้างขวางในหลายประเทศ เนื่องจากแคทลียาเป็นกล้วยไม้ที่มีดอกขนาดใหญ่ที่สุด และ สีสวยงามที่สุด บางชนิดมีกลิ่นหอม และ ถือกันว่าแคทลียาเป็น ราชินีแห่งกล้วยไม้ และ เป็นสัญลักษณ์สากลของกล้วยไม้ทั่วไป

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%9c%e0%b8%aa%e0%b8%a1/feed/ 0
แนะนำกล้วยไม้ พันธุ์แท้ น่าสะสม ที่ใกล้สูญพันธุ์ https://kluymai.com/%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b9%89/ https://kluymai.com/%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b9%89/#respond Fri, 14 Oct 2022 16:18:51 +0000 http://kluymai.com/?p=3535

ทุกท่านที่เลี้ยงกล้วยไม้ ย่อมเคยซื้อกล้วยไม้ พันธุ์แท้ หรือ ป่ามาเลี้ยง กล้วยไม้ที่ถูกผสมพันธุ์ใหม่ ๆ ก็เกิดจากไม้ป่าทั้งนั้น กล้วยไม้ป่าใช่ว่าทุกตัวจะมีดอกสวย ดอกหอม ดอกใหญ่ นักปรับปรุงพันธุ์จะเลือกเอาลักษณะเด่นของแต่ละสายพันธุ์นำมาผสม และ คัดเลือก ลักษณะเด่นที่ต้องการไว้ ลักษณะด้อยก็คัดทิ้งไป กล้วยไม้ป่าบางชนิดนักผสมพันธุ์ไม่เคยสนใจ แต่สำหรับนักเล่นบางคน ชอบสะสมไม้ป่าไว้หลาย ๆ ชนิด เพื่อการศึกษา ถ้านักเล่นหน้าใหม่มีความรู้ในการเลือกซื้อกล้วยไม้ป่าพันธุ์แท้ มันก็ช่วยลดการเก็บไม้ป่าพันธุ์แท้ลงไปทางอ้อม กล้วยไม้เหล่านี้เป็นทรัพยากร ที่ทดแทนได้ถ้ามีการใช้ หรือ ผลิตทดแทน เราก็จะได้มีกล้วยไม้ป่าอยู่กับเราอย่างยั่งยืนต่อไป

พันธุ์แท้ เหลืองจันทบูร

“เหลืองจันทบูร” กล้วยไม้ พันธุ์แท้ จัดเป็นพืชอนุรักษ์ภายใต้การควบคุมของกฎหมายไทย ตาม พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และ ยังจัดเป็นของป่าหวงห้ามตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ห้ามค้า หรือ อนุญาตให้ครอบครองได้ไม่เกิน 20 ต้น ดังนั้นการส่งออกต้องได้มาจากการขยายพันธุ์เทียมเท่านั้น คือ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือ การเพาะเมล็ดสังเคราะห์ และ สถานที่เพาะเลี้ยงเพื่อการค้าต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร กล้วยไม้เหลืองจันทบูรมีถิ่นกำเนิดแถบจ.จันทบุรี เป็นกล้วยไม้สกุลหวาย มีลำลูกกล้วยลักษณะเป็นโคนเล็กแล้วค่อยโป่งไปทางตอนปลาย ขนาดลำยาวมาก บางต้นยาวถึง 75 เซนติเมตร เมื่อลำแก่จะเป็นสีเหลือง โดยด้านข้างของลำจะมีใบอยู่ทั้งสองข้าง ช่อดอกออกตามข้อของลำ ออกดอกเป็นช่อ ช่อละ 2-4 ดอก กลีบดอกเป็นมัน รอบแรกดอกจะเป็นสีเหลืองอ่อน แล้วจะค่อย ๆ เข้มขึ้นจนเป็นสีจำปา ปากสีเข้มกว่ากลีบในคอ มีสีแต้มเป็นสีเลือดหมู 2 แต้ม ขนาดดอกโตประมาณ 5 เซนติเมตร ช่วงออกดอกประมาณเดือนมกราคม-เมษายน พบ และ การกระจายพันธุ์เฉพาะในประเทศไทย

พันธุ์แท้ รองเท้านารีเหลืองตรัง หรือ รองเท้านารีเหลืองพังงา

เป็นกล้วยไม้ในสกุลรองเท้านารี พันธุ์แท์ ถูกค้นพบโดยชาวอังกฤษชื่อ Mr.Murton แห่งสวนพฤกษศาสตร์หลวงเมืองคิว ประเทศอังกฤษ รองเท้านารีเหลืองตรังเป็นสายพันธุ์หนึ่งของรองเท้านารีขาวชุมพร ลักษณะทางพฤษศาสตร์ รองเท้านารีเหลืองตรังมีต้นเป็นพุ่มกว้างประมาณ 15 – 20 ซ.ม. ใบกว้าง 2.5 – 3.5 ซ.ม. ยาว 15 – 17 ซ.ม. ใบด้านบนเป็นลายสีเขียวเข้มสลับเขียวเทา บางต้นสีเขียวเข้มจะมากกว่าจนดูคล้ายใบสีเขียวเข้ม ใต้ท้องใบสีม่วงคล้ำ ดอกค่อนข้างกลม กว้างประมาณ 5 – 8 ซ.ม. ใหญ่กว่ารองเท้านารีขาวสตูลเล็กน้อย สีพื้นดอกมีทั้ง สีขาว สีครีม สีเหลืองอ่อนถึงเหลืองเข้ม มีลายสีม่วงแดงถึงม่วงน้ำตาลกระจายหนาแน่นทั่วกลีบดอก ก้านช่อดอกค่อนข้างสั้นประมาณ 5 – 10 ซ.ม. ช่อหนึ่งมี 1 – 2 ดอก ฤดูกาลออกดอกเดือนมีนาคม – มิถุนายน ถิ่นอาศัย พบอยู่ตามภูเขาหินปูนที่อยู่ติดชายฝั่งทะเล หรือ ตามเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน โดยขึ้นอยู่สูง 10 – 100 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตามรอยแยกของหินที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ ซากใบไม้ที่ผุพังทับถมด้วยตะกอนดิน โดยขึ้นอยู่ตามซอกหินที่ได้รับร่มเงาของชะง่อนหิน หรือ พุ่มไม้เตี้ยที่มีใบปกคลุมหนาทึบ แสงแดด และ น้ำฝนไม่สามารถสัมผัสได้โดยตรง แต่จะได้รับแสงที่สะท้อนจากน้ำทะเล เป็นรองเท้านารีที่พบอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกับรองเท้านารีขาวสตูล พบในจังหวัดตรัง กระบี่ พังงา สตูล และ บริเวณหมู่เกาะในฝั่งทะเลด้านตะวันตก

พันธุ์แท้ เขากวางอ่อน

เขากวางอ่อน เป็นสกุลย่อยของ Phalaenopsis เป็นกล้วยไม้ พันธุ์แท้ ที่พบได้ตามป่าธรรมชาติในผืนแผ่นดินบ้านเราแทบทุกภาค มีเขตกระจายพันธุ์เกือบทุกภูมิภาคเอเชีย ตั้งแต่ประเทศ อินเดีย พม่า ไทย ลาว เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และ เกาะสุมาตรา ซึ่งแต่ละชนิดที่พบตามประเทศต่าง ๆ นั้นล้วนมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องที่ที่ค้นพบ ลักษณะทั่วไป เขากวางอ่อน เป็นกล้วยไม้ที่ให้ดอกทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดู ร้อน และ ฤดูฝน จะเป็นฤดูที่ เขากวางอ่อน ให้ดอกมากที่สุด ส่วนในฤดูหนาวมักพบว่า เขากวางอ่อน จะให้ดอกน้อย หรือ ไม่ให้ดอกเลย ในธรรมชาติ พบว่า กล้วยไม้ชนิดนี้มักขึ้นบริเวณคาคบไม้ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 200 – 1000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ชอบแสงรำไร และ มีความชื้นรวมไปถึงบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ลักษณะดอก เขากวางอ่อน นับว่าเป็นกล้วยไม้ที่มีสีสันของดอกหลากหลายอีกชนิดหนึ่ง ดอกของ เขากวางอ่อน นั้น พบได้ตั้งแต่มีลวดลายสีแดง ขีดพาดไปมาคล้ายลายของเสือโคร่ง ไปจนถึง สีเหลืองสนิด บางต้น มีลักษณะดอกแบบทูโทน กึ่งสองสี และ บางต้น ก็มีสีแดงทั่วทั้งพื้นดอกซึ่งเป็นลักษณะพิเศษใช้ชื่อว่า เขากวางแดง ฟอร์ม ฉัตรดา

กล้วยไม้ พันธุ์แท้ น่าสะสม ที่เราได้นำมาให้ท่านรู้จักกันพอหอมปากหอมคอ ทั้ง 3 ชนิดเป็นกล้วยไม้พันธุ์ไทยแท้ ที่หายาก และ ใกล้สูญพันธุ์แล้วในปัจจุบัน แต่ละชนิดล้วนแต่เติบโตได้ดีในประเทศไทย เลี้ยงง่าย ทนร้อน และ ที่สำคัญให้ดอกมาก สวยงาม มีกลิ่นหอม สำหรับท่านใดที่ต้องการสะสม เป็นอีก 1 ไอเทม ที่ไม่ควรพลาด

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b9%89/feed/ 0
แนะนำ 3 กลิ่นหอมของกล้วยไม้ ที่นำมาสกัดสารหอมระเหย https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%ad%e0%b8%a1/ https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%ad%e0%b8%a1/#respond Thu, 13 Oct 2022 14:44:48 +0000 http://kluymai.com/?p=3525

กลิ่นหอม ของกล้วยไม้ถ้าจะมองถึงความหลากหลาย ทั้งในด้านรูปลักษณะ และ อุปนิสัย เราจะพบได้ว่า กล้วยไม้เป็นพันธุ์ไม้ที่มีลักษณะ และ อุปนิสัยแตกต่างกันอย่างกว้างขวาง ในด้านกลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้ ก็ใช่ว่าไม่อาจเรียกร้องความสนใจให้ผู้ที่มีโอกาสสัมผัสจากธรรมชาติ แต่กลับมีส่วนร่วมเสริมสร้างความรู้สึกภายในจิตวิญญาณให้กับผู้มีโอกาสสัมผัสอย่างลึกซึ้ง ประเทศไทยมีกล้วยไม้ที่มีกลิ่นหอมหลากหลายชนิดที่สามารถนำมาสกัดสารหอมระเหยเพื่อใช้ในธุรกิจสปา เครื่องสำอาง สุคนธบำบัด หรือ เป็นวัตถุดิบสำหรับทำน้ำหอมได้ เช่น ช้างกระ อุดรซัณไฌน์ หรือ เอื้องผึ้ง ซึ่งกลิ่นหอมเหล่านี้ที่สกัดได้จากธรรมชาติพบน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่นำมาแต่งกลิ่นให้มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

กลิ่นหอม ของเอื้องช้างกระ

ดอกไม้ กลิ่นหอม ของ เอื้องช้างกระ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhynchostylis gigantea Rhynchostylis (ริง-โค-สไตล์-ลิส) มีความหมายแยกตามคำได้ดังนี้ Rhyncho หมายถึง จะงอย และ Stylis หมายถึง เส้าเกสร เมื่อนำสองคำมารวมกันจะหมายถึง กล้วยไม้ชนิดที่มีเส้าเกสรคล้ายดั่งจะงอยปากนก นั่นเอง คำว่า gigantea หมายถึง ใหญ่มาก รวมกับความหมายของ ริงโค เข้าไปได้ความหมายใหม่ว่า กล้วยไม้ที่มีจะงอยปากเหมือนนกที่ใหญ่มาก นั่นเอง “ช้างกระ” กล้วยไม้ป่าที่มีดอกสวย และ หอม จะเริ่มหอมตอนสาย ๆ และ จะหอมตลบอบอวล ในตอนใกล้ ๆ เที่ยง แต่ดอกจะบานอยู่ราว 2 -3 อาทิตย์ ก็โรยแล้ว ชาวบ้านเรียกกล้วยไม้ช้างกระ เป็นภาษาพื้นเมืองว่า “เอื้องต๊กโต”

กลิ่นหอม ของเอื้องอุดรซัณไฌน์

กลิ่นหอม ของเอื้องอุดรชัณไฌน์ นอกจากชื่อสุดไพเราะ และ กลิ่นแสนหอมแล้ว อุดรซันไฌน์ ยังเป็นกล้วยไม้พันธุ์ลูกผสมที่เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดอุดรธานี เพราะกล้วยไม้พันธุ์นี้เกิดจากการคิดค้นผสมสายพันธุ์โดยเกษตรกรชาวจังหวัดอุดรธานี ประดิษฐ์ คำเพิ่มพูน เมื่อปี พ.ศ. 2520 กล้วยไม้อุดรซันไฌน์ (Udon Sunshine Or chid) หรือ พันธุ์นางสาวอุดรซันไฌน์ เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างแวนด้า (Vanda) ได้แก่ แวนด้า เทอเรส (ใบกลม) แวนด้า อินซิกนิส (ใบแบน) แวนด้า สามปอยดง (ใบแบน) และ โจเซฟฟิน แวนเบอร์โรว(Josephine Van Berrow) เป็นต้นแม่ เริ่มให้ดอกในราวปี พ.ศ.2530 และ ได้รับการจดลิขสิทธิ์ที่สมาคมกล้วยไม้โลกประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ.2531 ลักษณะเด่นของอุดรซันไฌน์คือ เป็นกล้วยไม้ที่ไม่มีเกสร และ น้ำหวาน แต่มีกลิ่นหอมรัญจวนแบบไทย ๆ ดอกกล้วยไม้จะให้กลิ่นหอมออกมาจากกลีบดอกในช่วงเช้าตรู่ จนถึงราวบ่ายโมง ต่อมากลิ่นจะเปิด – ปิดในช่วงเวลาดังกล่าว จนกว่าดอกจะเหี่ยวแห้งไป นอกจากดอกจะให้ความหอมเป็นพิเศษแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 3 สีคือ เมื่ออากาศเย็นจัดระหว่าง 10 – 15 องศาเซลเซียส ดอกจะเป็นสีแดงสดใส เมื่ออุณหภูมิ 15 – 20 องศาเซลเซียส ดอกจะเป็นสีทอง ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่านี้ ดอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด แต่กลิ่นยังคงที่เหมือนเดิม

กลิ่นหอม ของเอื้องผึ้ง

กลิ่นหอม ของเอื้องผึ้ง ด้วยลักษณะกลิ่นหอมหวานอันพิเศษราวกับน้ำผึ้ง เอื้องผึ้ง จึงถูกขนานนามอีกชื่อว่า Honey fragrant ซึ่งกลิ่นของมันได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักสกัดกลิ่น เพื่อนำไปใช้เป็นน้ำหอมอันล้ำค่าในยุค ลักษณะต้นของ เอื้องผึ้ง จะมีผิวลำลูกกล้วยที่คล้ำคือมีสีเขียวเข้ม ใบมีลักษณะกลมรี และ หนา  และ ที่ดูง่ายที่สุด 1 ลำลูกกล้วยจะมีเพียง 1 ใบเท่านั้น เอื้องผึ้ง จะให้ดอกเร็วกว่าเอื้องคำ ดอก เอื้องผึ้ง จะออกดอกในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ดอกมีกลิ่นหอมแรงในช่วงกลางวัน สีเหลืองสดใส ช่อห้วยย้อยชลงยาวตั้งแต่ 15 – 40 ซ.ม. มีจำนวนดอกไม่แน่นจนเกินไป และ พลิ้วไหวได้ง่ายยามต้องลม ดอกบานเต็มที่ขนาด 2 – 3 ซ.ม. แรกบานจะมีสีเหลืองอมเขียว ระยะต่อ ๆ มาสีจะเข้มขึ้น จนเป็นสีเหลืองอมส้มแสด ดอกของ เอื้องผึ้ง บานได้นานสุดราว ๆ 4 – 5 วันนับจากวันที่บานได้เต็มที่แล้ว แต่หากดอกของเอื้องผึ้งถูกน้ำจะบานได้เพียง 2 – 3 วันเท่านั้น เนื่องจากเป็นกล้วยไม้ที่เลี้ยงไม่ยาก ทนต่ออากาศร้อน และ เป็นที่รู้จักแพร่หลายในประเทศไทย เอื้องผึ้ง จึงเป็นกล้วยไม้อีกชนิดที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในบ้านเรา แต่กลับกันเอื้องผึ้ง ในธรรมชาติ ลดลงไปกว่า 60% ในผืนป่าภาคเหนือ ซึ่งทำให้ประชากรของมันเบาบางลงกว่าแต่ก่อนอย่างน่าตกใจ !

กลิ่นหอม สำหรับกลิ่นหอมของ กล้วยไม้ที่เราได้นำมาให้ ทุกท่านได้รู้จักกันในวันนี้นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกล้วยไม้ที่มีกลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของกล้วยไม้ นั่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกที่สวยงาม ซึ่งเป็นเสน่ห์ของกล้วยไม้แล้ว กลิ่นหอมนี่ก็เป็นสิ่งที่น่าเย้ายวน ชวนหลงใหลเช่นกัน ด้วยกลิ่นหอมที่พิเศษนี้ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักสกัดกลิ่น เพื่อนำไปใช้เป็นน้ำหอมอันล้ำค่าในยุค

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%ad%e0%b8%a1/feed/ 0
กล้วยไม้แปลก https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%81/ https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%81/#respond Wed, 12 Oct 2022 16:03:23 +0000 http://kluymai.com/?p=3518

3 พันธุ์กล้วยไม้แปลก รูปทรงแปลกประหลาด เหลือเชื่อ !

หลาย ๆ คนย่อมรู้ดีว่าสิ่งแปลกประหลาดบนโลกนั้นมีมากมายหลายอย่าง ไม่เว้นแม้แต่เหล่าดอกไม้สวย ๆ แม้กระทั่ง กล้วยไม้แปลก ที่มีดอกสวยน่าเย้ายวนเป็นที่สุด สิ่งแปลก ๆ เหล่านี้สามารถสร้างความฉงนสงสัยให้กับผู้คนที่มีโอกาสได้พบเห็น และ อาจอุทานได้ว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน มันมีแบบนี้จริง ๆ หรือ ? รับรองได้เลยว่าคุณจะแทบไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเองแน่นอน สิ่งที่คุณจะได้รู้จักกันดังต่อไปนี้คือ เหล่าดอกกล้วยไม้ที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก และ แน่นอนว่าดอกไม้บางชนิดคุณอาจไม่เห็นได้ทุกวัน หรือ แม้กระทั่งสักครั้งในชีวิต จะมีดอกกล้วยไม้สายพันธุ์อะไรกันบ้างนั้น เชิญรับชมกันได้เลย

สายพันธุ์กล้วยไม้ ดอกไม้แปลกๆสวยๆ
  • กล้วยไม้เป็ดบิน

  • กล้วยไม้หน้าลิง

  • กล้วยไม้ทารกในผ้าอ้อม

3 กล้วยไม้แปลก

The Flying Duck Orchid หรือ กล้วยไม้เป็ดบิน

The Flying Duck Orchid หรือ ที่เรียกว่า กล้วยไม้เป็ดบิน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Caleana major เป็นกล้วยไม้ป่าชนิดหนึ่งที่พบได้เฉพาะที่ประเทศออสเตรเลียเท่านั้น กล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ในตระกูล Orchidoideae ก่อนหน้านี้มีความพยายามเพาะพันธุ์กล้วยไม้พันธุ์นี้ให้สามารถปลูกได้ทั่ว ๆ ไป แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากรากของดอกกล้วยไม้ชนิดนี้มีความเกี่ยวพันกับเชื้อรา ชนิดหนึ่งที่อยู่ภายในป่า ของออสเตรเลีย ดังนั้นจึงทำให้ดอกกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น ลักษณะต้นมีความสูง 50 เซนติเมตร แต่ละช่อมีดอกประมาณ 2 – 4 ดอก ลักษณะดอกมีสีน้ำตาลอมแดงขนาด 15 – 20 มิลลิเมตรยาว ดอกของมันมีลักษณะคล้ายกับเป็ดกำลังบินอยู่ จึงมีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า กล้วยไม้เป็ดบิน ดอกของมันจะออกในช่วง เดือนกันยายนถึง เดือนมกราคม

กล้วยไม้แปลก ชนิดกล้วยไม้หน้าลิง Monkey Orchid

Monkey Orchid หรือ กล้วยไม้หน้าลิง ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ Monkey Orchid ก็คือ Dracula simia ถือเป็นกล้วยไม้พันธุ์หายากที่ไม่ได้พบเห็นกันง่าย ๆ ถิ่นกำเนิดของกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ในป่าดงดิบ ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเอกวาดอร์ และ เปรู ดอกของมันมีกลิ่นหอมเหมือนผลส้มสุก ดอกสี ขาว , ชมพู , น้ำตาล , ม่วง , ฟ้า , ส้ม , เขียว และ แดง (ลักษณะจะแตกต่างกันไปตามแต่สายพันธุ์) กล้วยไม้พันธุ์นี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อกว่า 30 ปีก่อน แต่เราสามารถพบกล้วยไม้สกุลเดียวกันนี้อีกกว่า 120 ชนิดในเอกวาดอร์ ถ้าอยู่ในสภาพอากาศที่เหมาะสมคือหนาว และ ไม่ค่อยมีแดด กล้วยไม้ชนิดนี้จะออกดอกได้ตลอดปี

กล้วยไม้ทารกห่อตัว หรือ กล้วยไม้ทารกในผ้าอ้อม (Anguloa uniflora)

กล้วยไม้ทารกห่อตัว หรือ กล้วยไม้ทารกในผ้าอ้อม (Anguloa uniflora) เป็นสายพันธุ์หนึ่งของกล้วยไม้ ที่ถูกค้นพบในอเมริกาใต้ เป็นพืชล้มลุกที่มีความคงทนเพราะชอบอากาศหนาวเย็น ใบของมันเป็นรูปไข่ที่มีลักษณะใหญ่  และ ออกดอกหลังการผลัดใบในฤดูร้อน ดอกของมันมีกลิ่นหอมมาก ถูกค้นพบในโคลอมเบียแอนดีสระหว่างปี 1777 – 1788 มีลักษณะรูปร่างที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากคล้ายกับทารกที่ห่อด้วยผ้าสีขาว เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยที่มีลำลูกกล้วย เจริญเติบโตที่ระดับความสูง 2,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ต้นมีความสูง 30 ซ.ม. ใบรูปหอกขนาดยาว กล้วยไม้จะออกดอกในช่วงฤดูร้อน ก้านช่อดอกยาวประมาณ 10 ซม. ดอกมีสีเหลือง สีขาว สีชมพู มีกลิ่นหอม ลักษณะดอกจะมีลักษณะเหมือนเปลนอน เนื่องจากเป็นกล้วยไม้ที่เจริญเติบโตในระดับที่สูง มันจึงค่อนข้างสัมผัสกับแสงแดดมาก โดยเฉพาะแสงอัลตราไวโอเล็ต เมื่อนำกล้วยไม้ชนิดนี้มาปลูกที่บ้าน มันจะเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร กล้วยไม้เหมาะกับสภาพอากาศอบอุ่น มีความชื้นประมาณ 50% รากของกล้วยไม้ชนิดนี้เน่าได้เร็ว ดังนั้นควรใช้ภาชนะปลูกที่สามารถระบายน้ำได้ดี นิยมใช้เครื่องปลูกที่เป็นเปลือกไม้ เมื่อสิ้นสุดฤดูร้อน ควรนำกล้วยไม้มาอยู่ในที่ ที่เย็น และ มีความชื้นต่ำลง

เชื่อได้เลยว่า เหล่า กล้วยไม้แปลกๆ ที่เราได้นำมาให้ทุกท่านได้รู้จักกันในวันนี้นั้น หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่เคยเห็นกันอย่างแน่นอน ซึ่งเหล่ากล้วยไม้เหล่านี้ มีลักษณะเฉพาะ ที่น่าดึงดูด ชวนแปลกตา และ น่าทึ่งเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าดอกของมันน่าเหลือเชื่อสุด ๆ เป็นเหล่ากล้วยไม้เมืองหนาวในเขตอบอุ่น ซึ่งบางชนิด ไม่เหมาะที่จะมีปลูก หรือ เพาะเลี้ยงในบ้านเรา อีกทั้งนอกจากความเแปลกนี้แล้ว ยังหายากอีกด้วย เนื่องด้วยความมีลักษณะเฉพาะ เรื่องราคาก็ย่อมสูงลิบเช่นกัน วันนี้เราได้นำมาให้ท่านผู้รักกล้วยไม้ได้พอรู้จักกันแบบหอมปากหอมคอกันบ้างแล้ว แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า

]]>
https://kluymai.com/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%81/feed/ 0 The "Flying Duck Orchid" & Deceptive Pollination nonadult