ทำความรู้จักกับ ศัพท์แสลงกล้วยไม้

ศัพท์แสลงกล้วยไม้

ศัพท์แสลงกล้วยไม้ เคยไหม เมื่อมารู้จักกับกล้วยไม้แล้ว มักเจอคำแผลง ๆ ที่คนกล้วยไม้ชอบพูดชอบคุยกัน มันเป็นภาษากล้วยไม้ที่ยากจะเข้าใจ ไม่ว่าวงการใด ๆ มักมีคำแสลงอันเป็นที่เข้าใจกันภายในกลุ่มอยู่ด้วยเสมอ ทั้งนี้อาจเพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นเข้าใจ หรือ ทราบว่าพูดถึงอะไรอาจเป็นคำสั้น ๆ ที่ทุกคนเข้าใจดี และ ทำให้เห็นภาพ และ เข้าใจความหมายของสิ่งที่ต้องการ สื่ออย่างลึกซึ้ง ศัพท์ แสลงที่ใช้ในวงการ กล้วยไม้ ก็เป็นทำนองเดียวกัน ในกลุ่มกล้วยไม้แต่ละกลุ่ม มักมีศัพท์แสลงใช้อยู่หลาย ๆ คำ คำเหล่านี้มี อยู่มาก และ อาจแตกต่างกันไป ในแต่ละถิ่น แต่ละกลุ่ม เกือบทั้งหมดที่มีนั้น วันนี้ทางเว็บไซต์ได้รวบรวม และ เก็บมาเขียนมาเล่าให้ฟังกัน ณ ที่นี้ เลื่อนเม้าลงไปอ่านกันได้เลย !

ศัพท์แสลงกล้วยไม้ กับคำศัพท์ ทั่ว ๆ ไป

ศัพท์ทั่ว ๆ ไป กับกล้วยไม้

๏ ลำลูกกล้วย : ส่วนของต้นกล้วยไม้ที่มีลักษณะ คล้ายลำต้น เป็นส่วนที่ใช้สะสมอาหาร และ เป็นส่วนที่เชื่อมกับใบส่วนใหญ่ จะเป็นกล้วยไม้ในกลุ่มที่เจริญทางด้านข้าง (Sympodial) เช่น กล้วยไม้ สกุลหวาย แคทลียา

๏ ตะเกียง : ส่วนของหน่อกล้วยไม้ ที่งอกออกจากส่วนตายอดส่วนปลายลำลูกกล้วย หรือ เจริญงอกออกมาจากตาด้านข้าง ของลำลูกกล้วย ต้นอ่อนเล็ก ๆ นั้นมักจะมีใบออกมาพร้อมต้นอ่อน ๆ ก่อนแล้ว จึงมีรากงอกออกมาในภายหลังซึ่งเราสามารถตัดแยก ตะเกียงเหล่านั้นไปปลูกใหม่เป็นต้น ต้นกล้วยไม้ที่ มีดอกเหมือนกันกับต้น พ่อแม่ทุกประการบางครั้ง หาก เราสังเกตว่าในช่วงที่ กล้วยไม้ แทงตาดอกแต่ตาดอกนั้น ยังเจริญ ไม่เต็มที่ไปถึงขั้น เป็นดอกอ่อน ถ้าเรา ใส่ปุ๋ยมาก หรือ บางกรณีเพียงรดน้ำมากเกินไป ก็ทำให้ตาดอกเหล่านั้น พัฒนากลายไปเป็นต้นอ่อน หรือ ตะเกียงได้

๏ ตา : หมายถึง ส่วนเจริญ ของกล้วยไม้ที่อยู่ตามข้อของลำลูกกล้วย ซึ่งสามารถพัฒนากลายไปเป็น หน่อต้นอ่อน หรือ ก้านช่อดอกได้ ถ้าจะเปรียบเทียบให้ชัด ตาของกล้วยไม้ ก็อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับตาของต้นไผ่

* ในกรณี ของกล้วยไม้ที่เจริญทางยอด เช่น พวกสกุลแวนด้า สกุล ช้าง หรือ สกุลเข็ม ตา ของ ต้นกล้วยไม้เหล่านั้น จะอยู่ที่ด้าน ข้าง ลำต้น ตรง ตำแหน่งที่ติดกับโคนซอกกาบใบ

๏ 4N : จำนวนชุดของโครโมโซม อันเป็นหน่วยองค์ประกอบทางพันธุกรรมพื้นฐานในเซลล์ ของสิ่งมีชีวิต ในที่นี้สำรับกล้วยไม้ โดยส่วนใหญ่ปรกติเมื่อตรวจดูโครโมโซม มักจะมีจำนวนชุดโครโมโซม 2n = 36 คู่ บางครั้งก็ 32 หรือ 38 ซึ่งกล้วยไม้แต่ละชนิดจะมีดอกลักษณะใด มีสีสัน กลิ่น และ ลักษณะทางกายภาพของต้น เป็นอย่างไร ก็เพราะอิทธิพลของโครโมโซมที่ถ่ายทอด จากต้นพ่อแม่ไปสู้ต้นลูก ดังนั้น เมื่อนำกล้วยไม้สองต้น ต่างชนิดกัน อาจผสมในสกุลเดียวกัน เช่น แวนด้า x แวนด้า ; หวาย X หวาย ก็จะได้ลูกกล้วยไม้ที่มีลักษณะ เด่น หรือ ด้อย จากพ่อแม่แสดงออกที่ดอก และ ต้น ของลูกไม้เหล่านั้น

สรุปง่าย ๆ 4N คือ กล้วยไม้ที่มีชุดโครโมโซมมากกว่าปรกติ มันจึงเป็นกล้วยไม้ที่แปลก และ เด่นกว่าเพื่อนพ้องนั่นเอง

* ในที่นี้เงื่อนไขการผสมต้องผสมกล้วยไม้ ในจำพวกที่มีลักษณะการเจริญแบบเดียวกัน คือ พวกเจริญทางยอด ไม่สามารถผสมข้ามกับพวก ที่เจริญ ทางด้านข้างได้ เช่น เราไม่สามารถนำหวายไปผสมกับแวนด้าได้

ศัพท์แสลงกล้วยไม้ ในแวดวง(ประกวด)

ศัพท์แสลงในแวดวง(ประกวด)กล้วยไม้

๏ ลูกเล่น : หมายถึง รายละเอียดของดอกกล้วยไม้ ที่มีสี ลวดลาย หรือ จุดประ ที่อยู่ ในกลีบดอกค่อนข้างวมาก ดูสวยงาม กระจุ๋มกระจิ๋มดี เช่นพูดว่า “ ลูกเล่นของลูกไม้ต้นนี้เยอะดี ”

๏ เอว : หมายถึง ของดอกกล้วยไม้ที่อยู่ระหว่าง กลีบใน กับกลีบนอกล่าง (ขา)

๏ หน้าคว่ำ : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่บานแล้ว หันด้านหน้าของดอกลู่ลง ระดับต่ำ กว่าปรกติทั้งช่อ อาจเป็นเพราะก้านดอกเล็ก หรือ อ่อน ทำให้ดอกที่มีขนาดใหญ่ คว่ำหน้าดอกลงทั้งช่อ ถ้าจะให้เห็นภาพคงเปรียบเหมือน ม้าหมากรุก

๏ พลิ้ว : หมายถึง กลีบดอกกล้วยไม้ ที่ไม่หนา มีความบางมาก หรือ ปลาย กลีบดอกบางกลีบ หรือ ทั้งหมด มีลักษณะ เป็นลอน คลื่น ไม่เรียบตึงสม่ำเสมอกัน

๏ ขา : หมายถึง กลีบคู่ล่างของดอกกล้วยไม้

๏ บิน : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่มี กลีบดอกคู่ใดคู่หนึ่ง หรือ ทุกกลีบ ตะแคง หรือ บิดลู่ไปข้างหลัง ไม่แบนอยู่ในระนาบเดียวกันทั้งดอก เช่น ลักษณะของกลีบคู่ในของ แวนด้าฟ้ามุ่ยที่ยังไม่ได้ปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ หรือ ลักษณะกลีบของกล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง Doritis pulcherrima ทั่ว ๆ ไป

๏ ก๋วยจับ : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่มีลักษณะ กลีบตึงแต่ปลายกลีบบิดม้วนลู่ไปด้านหลัง กล้วยไม้เหล่านี้มักถ่าย เลือดแบบนี้ไปยังรุ่นลูกหลานเมื่อนำไปผสม มัก เป็นลักษณะด้อย มีเรื่องเล่าว่าสมัยก่อนเจ้าของไม้ที่มีกล้วยกล้วยไม้ลักษณะ นี้บางคน เมื่อ จะนำเข้างานประกวด ก็จัดการดัดกลีบ บางครั้งถึงขั้นติดกาวกันเลยก็มี

๏ ถ่าง หรือ กาง : หมายถึงดอกกล้วยไม้ที่กลีบนอกล่าง (ขา) ทั้งคู่ไม่ซ้อนทับกัน หรือ ห่างกันมาก บางครั้ง อาจชี้เหยียด ออกไปทางข้าง ไปในทิศทางตรงกันข้ามเลยทีเดียว บางถิ่น นิยมใช้คำว่า “ฉึ่ง” แทน เช่น “กางฉึ่งเลย”

๏ น้ำหมาก : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่ มีสีแดงเป็นปื้น คล้ายกับสีปื้นของน้ำหมาก เช่นสีที่กลีบล่างของแวนด้า แซนเดอเรียน่า (แวนด้าทูโทน) เป็นต้น

๏ แล่พ : หมายถึง ดอกล้วยไม้ที่มีกลีบ ซ้อนกัน มาจากคำภาษาอังกฤษว่า “Overlap” แต่ย่อเอาตัวท้ายที่พอเข้าใจกัน มาใช้เรียก

๏ ถ้วย : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่บานแล้ว กลีบดอกไม่แบะผึ่งออก แต่จะห่อว้อนกัน เป็นอุ้งคล้ายกับ ถ้วยที่ใส่ขนม หรือ ถ้วยขนมถ้วย

๏ แก้ผ้า : หมายถึง ต้นกล้วยไม้ ที่ใบล่าง ๆ หลุดร่วงไปหมด จนเหลือแต่ลำต้น และใบที่ส่วนปลายยอดเพียงไม่กี่ใบ ส่วนมากมักเกิดจากอาการของโรค หรือ บางครั้งอาจเป็นนิสัยของต้นกล้วยไม้นั้น ๆ ก็ได้ ส่วนใหญ่มักใช้กับ แวนด้า ถ้าเป็น สกุลหวาย หรือ กล้วยไม้ชนิดอื่น ๆ มักเรียกว่า “ทิ้งใบ”

๏ ดาว หรือ ฟอร์มดาว : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่กลีบทั้งห้ากลีบ เป็นแฉก ปลายแหลม ทำให้ดูคล้าย ๆ กับดาวห้าแฉก อาจเป็นลักษณะของกล้วยไม้บางชนิด แต่คนส่วนใหญ่มักชอบดอกกล้วยไม้ที่รูปร่างกลม หรือ “ฟอร์มกลม” มากกว่า

๏ บ๋อง : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ หรือ กลีบดอกกล้วยไม้ ที่มีความกลมมาก คล้ายกับขีดด้วยวงเวียน เป็นอุทานของคำสร้อยบทที่ว่า “กลมบ๋อง” แต่เรียกย่อเพียงคำ ท้ายเพียงคำเดียว

๏ เบอะบะ : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่ มากด้วย และ มีความหนาด้วย ดุคล้ายหูช้างเพราะ”มีความใหญ่เบอะบะ”

๏ กะละมัง : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่ขนาดใหญ่กว่าปรกติอาจจะกลีบหนา หรือ ไม่หนาก็ได้ ความหมายคล้ายกับคำว่าเบอะบะ

๏ ท้อง : หมายถึง ต้นกล้วยไม้ที่กำลังจะแทงช่อ สังเกตจะมีรอยแยกตัวขาว ๆ ที่กาบใบ และ ลำต้นตรงส่วนนั้น กำลังขยายตัว และ กำลังจะแทงตาดอก และ แทงช่อดอกในเวลาต่อมา

๏ จิ๋ว หรือ แคระ: หมายถึง กล้วยไม้ ที่มีขนาดต้น ดอกใบ โดยรวมเล็ก กว่าปรกติของชนิดพันธุ์นั้นๆ เช่น เอื้องม้าวิ่งแคระ หมายถึงกล้วยไม้ชนิดม้าวิ่งที่สายพันธุ์ มีต้น และ ดอกเล็กกว่าปรกติ มาก

๏ ฝ่อ : หมายถึง อาการที่ก้านดอกกล้วยไม้เมื่อแทงออกมาไม่นาน ก็แห้ง ดำ หลุดร่วงเสียหาย ไปไม่เจริญต่อไปเป็นดอก อาจเกิด จาก แมลงกัดดูดกินน้ำเลี้ยงของดอก เช่น เพลี้ยไฟ หนอนต่าง ๆ หรือ อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือ เปลื่ยนแปลงกะทันหัน หรือ อาจเกิด จากสารเคมีพวกปุ๋ยยาต่างๆ ที่รดขณะต้นกล้วยไม้กำลังมีดอก แรง หรือ มากเกินไป

๏ พัง : หมายถึงอาการผิดหวัง ของเจ้าของ เช่นลูกกล้วยไม้ที่ผสมขึ้นมาเอง พอออกดอกแล้ว ไม่ดีอย่างที่คิดที่ตั้งใจไว้ ขายก็ไม่มีใครซื้อ ให้ก็ไม่มีใครรับ เรียกว่าไม้ ชุดนี้ “พัง’”

๏ ผ่อง : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่มีสีขาวสะอาด บริสุทธิ์

๏ จ๋อย : หมายถึง ดอกกล้วยไม้ที่มีสีเหลืองมาก ๆ หรือ อาจเหลืองบริสุทธิ์มาจาก คำว่าเหลืองจ๋อย หรือ เหลืองอ๋อย

๏ ไม้ : หมายถึง คำเรียกสรรพนาม แทนคำว่า กล้วยไม้ เช่นในงานประกวดเราอาจได้ยินคำถามกันไปมา ว่า “ไม้ใคร?”หมายถึงกล้วยไม้ต้นนี้เป็นของใคร หรือ ใครเป็นผู้ผสมกล้วยไม้นี้ หรือ ต้นนี้มาจากสวนไหน หรือ จังหวัดใด ก็ได้ ตีความหมายที่ถามมักจะต่างกันไปตามบริบทของผู้สนทนา

ศัพท์แสลงกล้วยไม้ ไม่ว่าวงการใด ๆ มักมีคำแสลงอันเป็นที่เข้าใจกันภายในกลุ่มอยู่ด้วยเสมอ ทั้งนี้อาจเพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นเข้าใจ หรือ ทราบว่าพูดถึงอะไรอาจเป็นคำสั้น ๆ ที่ทุกคนเข้าใจดี และ ทำให้เห็นภาพ และ เข้าใจความหมายของสิ่งที่ต้องการ สื่ออย่างลึกซึ้ง ศัพท์ แสลงที่ใช้ในวงการ กล้วยไม้ ก็เป็นทำนองเดียวกัน ในกลุ่มกล้วยไม้แต่ละกลุ่ม มักมีศัพท์แสลงใช้อยู่หลาย ๆ คำ คำเหล่านี้มี อยู่มาก และ อาจแตกต่างกันไป ในแต่ละถิ่น แต่ละกลุ่ม

Facebook
Twitter
LinkedIn