เอื้องสายม่วงเวียดนาม หรือ สายม่วงพาเรน กล้วยไม้ป่าพันธุ์แท้จากฝั่งเวียดนาม ปัจจุบันไม้ป่าราคาสูงลิบลิ่ว ถึงกิโลกรัมละ 1,000 บาทขึ้นไป ด้วยความหายาก และ ความสวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของเครื่องสายทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ดอกมีลักษณะต่างจากตัว สายม่วงธรรมดา คือตัวนี้จะเหมือนไม้เซมิ ดอกขาว ปากชมพูสด ออกดอกฟู ๆ พร้อม ๆ กัน สวยงามมาก ๆ
สภาพทางนิเวศวิทยาของ เอื้องสายม่วงเวียดนาม
เอื้องสายม่วงเวียดนาม ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Den.transparens เป็นกล้วยไม้ในวงค์ Orchidaceae ระบบนิเวศวิทยา พบตามป่าดิบที่ระดับ 300 – 800 เมตร ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคตะวันตก และ ป่าสนทางภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถิ่นกำเนิด การกระจายพันธุ์ อินเดีย พม่า จีน และ ลาว การใช้งานด้านภูมิทัศน์ ลักษณะดอกสีขาวเจือสีม่วงเรื่อ ๆ ตาดำ ออกดอกตามข้อ ดอกดก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ การปลูกเลี้ยงชอบแสงรำไร ชอบอากาศถ่ายเทสะดวก แตกกอง่าย
ฤดูกาลออกดอก ทิ้งใบของ เอื้องสายม่วงเวียดนาม
เอื้องสายม่วงเวียดนาม จะเริ่มทยอยทิ้งใบในช่วงเดือน 11 และ พักตัวยาวไปจนถึงปลายเดือน กุมภาพันธ์ ในช่วงเดือนนี้เอง ที่ สายม่วง เริ่มปรากฏตาดอกเห็นได้ชัดขึ้น ตาดอกนี้จะใช้เวลานานมากทีเดียวกว่าจะกลายเป็นช่อดอกเล็ก ๆ ชูทรวดทรงออกมา เมื่อเริ่มเข้าสู่กลางเดือน มีนาคม สายม่วง จะเริ่มแทงช่อตูมออกมาจากลำแต่ละข้อ และ ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นพร้อมเบ่งบานในช่วงเดือน เมษายน ต้อนรับฤดูกาลแห่งคิมหันต์ ดอกของ สายม่วง นั้นมีกลิ่นหอมเบา ๆ แต่ชวนให้หลงใหล และ เย้ายวน ปัจจัยการทิ้งใบของ สายม่วง นั้น ยังพบด้วยว่าความชื้น และ การให้น้ำมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับสายอื่น ๆ หากเราให้น้ำมาก อัตราการทิ้งใบจะช้ากว่ากำหนด และ หากไม่ให้ หรือ ปล่อยแห้งเพียงวันถึงสองวัน ไม้สายจะทิ้งใบลง อย่างรวดเร็ว จนน่าตกใจ แต่นั่นก็เป็นข้อดี คือ เราก็จะได้เห็นดอกเร็วขึ้น นั่นเอง
การเลี้ยง และ วัสดุปลูก เอื้องสายม่วงเวียดนาม
เอื้องสายม่วงเวียดนาม จากการเลี้ยงดู สายม่วง หลาย ๆ ต้นพบว่า สายม่วง เป็นหวายที่ไม่ชอบเครื่องปลูกที่อมน้ำไว้มาก และ ทำให้แฉะตลอดวันอย่าง สเฟกนั่มมอส หรือ รากชายผ้าสีดา นั้นก็เพราะ สายม่วง ชอบแห้งมากกว่าชื้นเสียอีก โดยการทดลองปลูกที่ผ่านมา พบว่า การปลูก สายม่วง ลงในกระถางพลาสติกโดยใช้เครื่องปลูกเป็นรากชายผ้าทั้งหมดนั้น สายม่วงจะเติบโตได้ไม่ค่อยดี และ ดูไม่ค่อยแข็งแรง เมื่อเทียบกับ สายม่วง ที่ใช้เครื่องปลูกเป็น รากชายผ้า 20% และ ถ่าน 80% ซึ่งได้ผลดีทีเดียว ดังนั้นการปลูก ควรให้เครื่องปลูกที่เป็นวัสดุกับเก็บความชื้นสูงอย่าง สเฟกนั่มมอส กาบมะพร้าว หรือ รากชายผ้า ในปริมาณที่ 20 – 30% และ ที่เหลือเป็นถ่าน หรือ เศษไม้แทน ห้ามเด็ดขาดคือ มะพร้าวตุ้ม เพราะมะพร้าวตุ้มจะทำให้รากของ สายม่วง ขาดอากาศหายใจตายได้ครับ * อย่าลืมว่าเป็นรากแบบกึ่งอากาศ ปริมาณของแสงที่ควรได้รับของ สายม่วง นั้นควรอยู่ที่ 40 – 60% ช่วงเวลาต้องห้ามที่ไม่ควรได้รับแสงจากดวงอาทิตย์เต็ม ๆ คือช่วง หลัง 11 โมงไปจนถึง บ่าย 2 ครึ่ง เพราะแสงแรงมาก ไม่ว่ากล้วยไม้ต้นไหน ๆ ก็ทนไม่ได้ ยกเว้น ช้างน้าว และ จำพวกทนแดดเท่านั้น
เอื้องสายม่วงเวียดนาม หรือ สายม่วงทรานพาเรน (Den.transparens) กล้วยไม้นิ้ว เพาะเลี้ยงจากเมล็ดเลี้ยงง่ายกว่าไม้ป่า ต้นที่จำหน่ายเป็น ต้นปลูกในกระถางนิ้วต้นแข็งแรงรากเดินดีแล้ว สามารถย้ายปลูกลงกระถาง หรือ ติดไม้แขวนได้ ข้อมูลพฤกษาศาสตร์ : เอื้องสายม่วงเวียดนาม หรือ สายม่วงทรานพาเรน เป็นเอื้องสายกลุ่มเดียวกับสายครั่งยาวลักษณะดอกสีขาวเจือสีม่วงเรื่อ ๆ ตาดำ ออกดอกตามข้อ ดอกดก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ การปลูกเลี้ยงชอบแสงรำไร ชอบอากาศถ่ายเทสะดวก แตกกอง่าย